กรุงเทพ 6 มี.ค. – กระทรวงพาณิชย์ระบุธุรกิจอี-คอมเมิร์ซต้องเข้าสู่ระบบ เตรียมหารือกรมสรรพากรและผู้ประกอบการเก็บภาษีเป็นธรรม
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่กรมสรรพากรมีนโยบายจัดเก็บภาษีธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ว่า กระทรวงพาณิชย์เห็นว่าในที่สุดแล้วผู้ประกอบการธุรกิจอี-คอมเมิร์ซจำเป็นที่จะต้องเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น ปัจจุบันอี-คอมเมิร์ซเป็นอนาคตของช่องทางการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการ ทั้งนี้ ไม่อยากให้มองเพียงมิติของการจัดเก็บภาษีเท่านั้น แต่อยากให้มองเรื่องการเข้าสู่ระบบ เพื่อภาครัฐสามารถเข้าไปบริหารจัดการและควบคุมได้ หากภาครัฐไม่สามารถเข้าไปบริหารจัดการดูแลได้ก็จะกลายเป็นดาบสองคมของการเติบโตธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในอนาคต และแน่นอนว่าก่อนที่จะออกมาตรการควบคุมและจัดเก็บภาษีธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ทางกระทรวงพาณิชย์จะต้องหารือกับกรมสรรพากรและผู้ประกอบการก่อนด้วยความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ
ส่วนการที่สหรัฐประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กนั้น ทางกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจและติดตามจับตาในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิดว่าจะส่งผลกระทบต่อสินค้าส่งออกประเทศไทยชนิดไหนอย่างไรบ้าง เพื่อตั้งรับผลกระทบ และในกรณีที่พบว่ากลุ่มสินค้าใดได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า ทางกระทรวงพาณิชย์จะร่วมหารือกับผู้ประกอบการส่งออกที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการช่วยบรรเทาและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น ในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่ได้ประท้วงสหรัฐอเมริกา การปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็ก
สำหรับมาตรการกีดกันทางการค้านั้น เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงพาณิชย์ส่งสัญญาณแจ้งผู้ประกอบการในประเทศที่ส่งออกสินค้าทราบมาก่อนหน้านี้ แล้วว่า มีทั้งมาตรการที่เป็นภาษีและไม่ใช่ภาษีเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการจะต้องเข้าใจ และต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจของตัวเอง มีความสามารถในการแข่งขัน เพื่อผ่านสถานการณ์ไปได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้ประกอบการไทยมีความแตกต่างมีความสามารถในการแข่งขัน มีนวัตกรรม.- สำนักข่าวไทย