นครปฐม 7 มี.ค. – เกษตรกรในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เข้าร่วมโครงการลดพื้นที่นาปรัง โดยเลือกปลูกคะน้า ซึ่งเพียงรอบการผลิตเดียว มีรายได้มากกว่าการขายข้าว
ธนกฤต ผิวสุวรรณ์ เดิมทำนา 80 ไร่ ปีนี้ลดพื้นที่ทำนาปรังมาปลูกผักตามคำแนะนำของสำนักงานเกษตรอำเภอบางเลน นครปฐม ปลูกข้าวพันธุ์ กข 41 และ 47 ในฤดูนาปรังนี้เพียง 20 ไร่
เริ่มปลูกตั้งโอ๋ มาตั้งแต่หน้าแล้งปีที่แล้ว จำนวน 20 ไร่ เมื่อขายแล้วรายได้ดี แปลงที่ยกร่องปลูกผักแล้วก็ไม่กลับไปปลูกข้าวอีก
ปีนี้กรมส่งเสริมการเกษตรมีโครงการส่งเสริมปลูกพืชหลากหลายตามความถนัดของเกษตรกร เพื่อลดผลผลิตข้าวที่ล้นตลาดทั้งในประเทศ และที่จะส่งขายต่างประเทศ จนราคาตกต่ำ “ธนกฤต” จึงลองปลูกคะน้า 17 ไร่ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ขายผลผลิตไปก่อนปีใหม่ ราคากิโลกรัมละ 32 บาท มีรายได้ประมาณ 1.5 ล้านบาท
เกษตรอำเภอบางเลน กล่าวว่า โครงการปลูกพืชหลากหลาย กรมส่งเสริมการเกษตรจะสนับสนุนเกษตรกร ไร่ละ 2,000 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ อำเภอบางเลน มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 11 ราย พื้นที่ 72 ไร่ ซึ่งในจังหวัดนครปฐมนี้ ส่วนใหญ่จะปลูกผัก
ข้อกำหนดของโครงการปลูกพืชหลากหลาย เกษตรกรจะต้องไม่ปลูกข้าวในพื้นที่เกษตรที่ร่วมโครงการจนถึงสิ้นเดือนเมษายน จากนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูนาปีสามารถกลับไปปลูกข้าวได้ตามปกติ
สำหรับเกษตรกรรายนี้ เมื่อเปรียบเทียบต้นทุนการปลูกข้าวกับผักแล้วใกล้เคียงกันที่ไร่ละ 5,000 บาท ขายข้าวได้เพียงตันละ 6,500 บาท แต่ขายผักได้กำไรมากกว่าหลายเท่า พื้นที่ที่ยกร่องปลูกผักแล้วจะไม่กลับไปทำนาอีก คงปลูกข้าวไว้เพียง 20 ไร่ ที่นาที่เหลือจะทยอยปรับพื้นที่มาปลูกผักหมุนเวียนไปตามความต้องการของตลาด. – สำนักข่าวไทย