เพชรบุรี 5 มี.ค. – รมว.พลังงานเร่งศึกษาแนวคิดสูบน้ำจากเขื่อนเพชรกลับไปยังเขื่อนแก่งกระจาน เพื่อลดปัญหาน้ำท่วมและแก้ภัยแล้ง ควบคู่กับโครงการสูบน้ำด้วยแสงอาทิตย์สู้ภัยแล้ง ช่วยชุมชนตามโมเดล “ไทยนิยมยั่งยืน”
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากกระทรวงพลังงานลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและหารือโครงการระบบสูบน้ำกลับจากเขื่อนเพชรไปยังเขื่อนแก่งกระจาน ร่วมกับกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานสภาเกษตร จ.เพชรบุรี ซึ่งการแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในจังหวัดเพชรบุรี จากการศึกษาถึงสภาพลุ่มน้ำเพชรบุรี โครงข่ายแม่น้ำ อุทกวิทยา สรุปว่า แม้ว่าจะลงทุนสูงถึง 2,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างระบบสูบน้ำกลับถึง 15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ เนื่องจากกรณีน้ำหลากเกิดในช่วงสั้น ๆ ประมาณ 2 เดือน เป็นปริมาณมาก
ทั้งนี้ ผู้แทนกรมชลประทานได้เสนอโครงการที่จะนำเสนอต่อ ครม. เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยในจังหวัดเพชรบุรีอย่างถาวร คือ การสร้างฟลัดเวย์ (Floodway) ด้วยวงเงินก่อสร้างประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะแก้ปัญหาอุทกภัยในจังหวัดเพชรบุรีได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในส่วนของกระทรวงพลังงานนั้น จะช่วยแก้ปัญหาช่วงภัยแล้ง ด้วย “โครงการสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์สู้ภัยแล้ง” โดยใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ เป็นปั๊มสูบน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะ และสามารถมากักเก็บไว้ในบ่อน้ำของหมู่บ้านหรือชุมชน โดยมีการบริหารจัดการร่วมกัน ซึ่งเกษตรกรและชาวบ้านจะไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้าในการสูบน้ำดังกล่าว
ด้านโครงการสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์สู้ภัยแล้งบริเวณบ้านหนองคอไก่ ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานพลังงานจังหวัดเพชรบุรี ด้วยเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และเริ่มใช้งานในระบบแล้ว สามารถสูบน้ำจากบ่อที่ความลึกประมาณ 82 เมตร ได้ปริมาณน้ำ 7 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง โดยโครงการฯ ใช้ประโยชน์ในพื้นที่กว่า 30 ไร่ ให้เกษตรกรสมาชิกผู้ใช้น้ำ 7 ราย สามารถปลูกพืช เช่น พริก มะเขือ มะละกอ กล้วย ซึ่งจุดเด่นของโครงการสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่ท่ายางแห่งนี้สามารถใช้น้ำในการปลูกพืชแบบผสมผสานพร้อมกับการเลี้ยงสัตว์ และชุมชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง. – สำนักข่าวไทย