กรุงเทพฯ 4 มี.ค. – กรมชลประทานเดินหน้าแก้ปัญหาอุทกภัยลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง เร่งก่อสร้างคลองระบายน้ำ 2 สาย เพื่อตัดยอดปริมาณน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนเพชร ลดผลกระทบน้ำท่วมพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า การควบคุมและบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเพชรบุรี ปัจจุบันสามารถทำได้เฉพาะพื้นที่บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง (เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนห้วยผาก และเขื่อนแม่ประจันต์) ที่ตั้งอยู่ทางตอนบนของลุ่มน้ำเพชรบุรี ส่วนพื้นที่ที่ไม่สามารถควบคุมและบริหารจัดการน้ำได้จะเป็นพื้นที่ด้านท้ายของอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่ง ซึ่งอยู่เหนือเขื่อนเพชร (เขื่อนทดน้ำ)ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.ท่ายาง เมื่อมีปริมาณฝนตกเกิน 150 มิลลิเมตรต่อวัน ทำให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลผ่านเขื่อนเพชร ทำให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน
ทั้งนี้ ในช่วงฤดูฝนปี 2560 ฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเพชรบุรี ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเพชรมากกว่า 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่เกินขีดความสามารถในการระบายน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีในช่วงที่ไหลผ่านตัวเมืองเพชรบุรี (รับน้ำได้เพียง 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณตัวเมืองเพชรบุรีไปจนถึงพื้นที่ลุ่มต่ำอำเภอบ้านลาด และอำเภอบ้านแหลม ส่งผลกระทบต่อประชาชนและพื้นที่เศรษฐกิจค่อนข้างมาก
กรมชลประทานได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยการก่อสร้างคลองระบายน้ำ 2 สาย บริเวณด้านเหนือเขื่อนเพชร เพื่อตัดยอดปริมาณน้ำก่อนที่จะไหลผ่านเขื่อนเพชรให้ระบายออกสู่ทะเลได้ในอัตรา 650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเขื่อนเพชรลดน้อยลง และไม่ทำให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนเพชรลงมา
สำหรับคลองระบายน้ำ 2 สาย ที่กรมชลประทานวางแผนดำเนินการก่อสร้าง ประกอบด้วย การก่อสร้างคลองระบายน้ำสาย 3 เชื่อมลงคลองระบายน้ำ D9 ความยาวรวม 31.50 กิโลเมตร สามารถระบายน้ำได้ 100 ลบ.ม./วินาที ซึ่งปี 2560 กรมชลประทานเริ่มก่อสร้างคลองระบายน้ำสาย D9 ความยาว 19 กิโลเมตร ส่วนคลองระบายน้ำสาย 3 ความยาว 4 กิโลเมตร จะเริ่มดำเนินการปีนี้ ทั้งนี้ คาดว่าจะเสร็จทั้ง 2 สายในปี 2562 ส่วนงานที่เหลือจะดำเนินการก่อสร้างปีงบประมาณ 2562 หากดำเนินการเสร็จจะสามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ 100 ลบ.ม./วินาที ส่วนคลองระบายน้ำ D1 ความยาว 20 กิโลเมตร ความสามารถในการระบายน้ำได้ 550 ลบ.ม./วินาทีนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและวางแผนก่อสร้างเสร็จปี 2564 ทั้งนี้ หากดำเนินการก่อสร้างคลองระบายน้ำเสร็จทั้งหมด จะสามารถระบายน้ำได้สูงสุด 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (จากสถิติน้ำหลาก 25 ปี) ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่างได้.-สำนักข่าวไทย