กาฬสินธุ์ 20 ก.พ.-ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เผย “ชิต สายเบิร์น” มีอาการเครียด ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าดูอาการเกรงทำร้ายตัวเอง ด้านผู้ว่าฯ สั่งเร่งดำเนินการติดตั้งไฟส่องสว่างและกล้องวงจรปิดตามจุดเสี่ยงพร้อมช่วยเหลือเยียวยานักศึกษาเคราะห์ร้ายทั้งสอง
จากกรณีที่นายทิษณุ โถนารัตน์ หรือ ชิตสายเบริ์น ชาว อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาในคดีก่อเหตุขับรถกระบะเบียดรถจักรยานยนต์ของนักศึกษาแล้วใช้อาวุธปืนยิงนักศึกษาชายบาดเจ็บสาหัส และได้ฉุดนักศึกษาสาวรุ่นน้องขึ้นรถกระบะ ที่บริเวณทางเข้ามหาวิทยาลัย ในพื้นที่ ต.ยอดแกง อ.นามน ในช่วงกลางดึกของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 โดยคนร้ายได้พานักศึกษาสาวไปข่มขืนถึง 4 ครั้ง จากนั้นก็ได้ปล่อยให้ลงกลางทางบนภูพาน เขต จ.สกลนคร จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามตัวจนรู้ว่าคนร้ายเป็นใครและทำการกดดันเพื่อให้มามอบตัวจนสามารถควบคุมตัวได้ในช่วงเช้าของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และส่งตัวให้กับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์และนำตัวผู้ต้องหาฝากขังที่เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นมา
ล่าสุดวันนี้ (20 ก.พ.) นายพชรวิเชียร สมจิตร ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับคดีสะเทือนขวัญดังกล่าวถือว่าคนร้ายก่อเหตุอุกอาจอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยหลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัว ผู้ต้องหา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพและเก็บหลักฐานทั้งหมดแล้ว ได้ส่งตัวไปที่ศาลจังหวัด หลังจากนั้นทางเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ไปรับตัวผู้ต้องหามาฝากขังที่เรือนจำ โดยจะฝากจังผลัดแรก 12 วัน ซึ่งในการรับตัวมาทางเจ้าหน้าที่พยาบาลเรือนจำได้ทำการตรวจร่างกาย ตรวจค้นตัวอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้มีสิ่งต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ต้องขังปฏิบัติตัวตามปกติเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป แต่เราจะต้องเฝ้าระวังเนื่องจากเป็นคดีที่สะเทือนขวัญประชาชนและพบว่าผู้ต้องขังมีอาการเครียด ต้องให้มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเพราะเกรงว่าผู้ต้องขังจะทำร้ายตัวเอง ส่วนยาที่ญาตินำมาให้เจ้าหน้าที่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นยาจากคลินิกแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่ใช่ยาที่มาจากโรงพยาบาล ซึ่งถุงยาจะมียาคลายเครียด ยาลดความดัน และยาเกี่ยวกับจิตเวช โดยทางเจ้าหน้าที่เรือนจำจะได้นำตัวยาทั้งหมดไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล และตรวจร่างกายผู้ต้องขังอย่างละเอียดอีกครั้ง หากผู้ต้องขังมีความเครียดเจ้าหน้าที่จะได้จ่ายยาถูกต้อง ซึ่งในช่วงนี้พบว่ามีญาติที่ใกล้ชิดเข้ามาเยี่ยมผู้ต้องขังเป็นประจำ โดยทางเรือนจำได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปเยี่ยมญาติโดยประกบอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาทเนื่องจากทางญาติและผู้ต้องขังมีอาการเครียดเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่าหลังจากที่ทราบข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางจังหวัดก็ได้ให้ทางอำเภอลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่าไม่มีแสงสว่างที่เพียงพอ อีกทั้งยังไม่มีกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ โดยขณะนี้ทางจังหวัดกำลังพิจารณาในการเพิ่มแสงสว่างถนนเข้ามหาวิทยาลัย รวมไปถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับชาวบ้านและนักศึกษาที่ใช้รถใช้ถนนในช่วงตอนกลางคืน ส่วนเรื่องการเยียวยาของนักศึกษาทั้งสองขณะนี้ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว และตนจะได้เดินทางเข้าไปสอบถามนักศึกษาทั้งสองทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ โดยตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอแสดงความเสียใจกับนักศึกษาและผู้ปกครองทั้งสอง นอกจากนี้จะได้กำชับผู้นำท้องถิ่นในเรื่องของการอนุญาตใบครอบครองปืน จะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดว่า บุคคลที่มาขออนุญาตประกอบอาชีพอะไร และมีพฤติการณ์ยังไง ซึ่งหากออกใบอนุญาตโดยไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียด ก็จะเป็นช่องโหว่ให้กับคนร้ายที่ต้องการมีปืนเพื่อทำการข่มขู่หรือก่อเหตุร้ายในลักษณะดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย