กรุงเทพ 6 ต.ค.- ชาวชุมชนป้อมมหากาฬ เรียกร้องรัฐ อย่าฟังข้อมูลด้านเดียว เปิดโอกาสให้ชุมชนเสนอแผนพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมอย่างน้อยเวลา 6เดือน
ชาวชุมชนป้อมมหากาฬที่คัดค้านการรื้อถอนบ้านเรือนในชุมชนฯ พร้อมด้วยเครือข่ายภาคประชาสังคม แถลงท่าทีหลังรัฐบาลสั่งกรุงเทพมหานคร เดินหน้าดำเนินการรื้อถอนบ้านเรือนภายในชุมชนป้อมมหากาฬทั้งหมด ตามประกาศพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน พ.ศ.2535 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนี้ ไม่ได้กำหนดเร่งรัดเรื่องเวลาแต่อย่างใด
เครือข่ายภาคประชาสังคม ตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมดังกล่าว ไม่เปิดโอกาสให้ตัวแทนชุมชนเสนอแนวทางแก้ปัญหา และเป็นการนำเสนอข้อมูลเพียงด้านเดียวของกรุงเทพมหานคร ดังนั้นเสนอว่า รัฐบาลควรจะหยุดการรื้อถอนเพิ่มเติม รอจนกว่าจะมีคณะกรรมการพหุภาคีที่ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล เป็นประธาน เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวแทนชุมชน รวมทั้ง เครือข่ายฯ ได้นำข้อเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างรอบด้าน บนพื้นฐานธรรมาภิบาล
เครือข่ายภาคประชาสังคม ยืนยันอีกว่า ตามแผนการศึกษาของเครือข่าย สภาพพื้นที่ชุมชนป้อมมหากาฬ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ ยังมีคุณค่าหลายมิติ ที่สามารถนำมาบริหารจัดการร่วมอยู่กับแผนการพัฒนาของกรุงเทพหานครได้ จึงเรียกร้องรัฐบาล อย่าฟังข้อมูลด้านเดียว และมีความกล้าหาญร่วมแก้ปัญหากับชุมชน ไม่ใช่เดินหน้าไล่รื้อ และขอเวลาเครือข่ายฯ นำเนอแผนพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมภายในระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน
ส่วนกรณีเจ้าของบ้านที่ยินยอมมีความประสงค์จะย้ายออกจากชุมชน ทางเครือข่ายไม่ขัดข้อง แต่ต้องมาหารือร่วมกันกับคณะกรรมการของชุมชน โดยมีเจ้าของบ้าน ชุมชน และกทม. ร่วมพูดคุย เพื่อความชัดเจนในการดำเนินงาน //ขณะที่นางอำพร สำเภาเงิน เจ้าของบ้านเลขที่ 195 ที่อาศัยอยู่ภายในชุมชน ซึ่งแจ้งความประสงค์ย้ายออก ได้เริ่มมีการรื้อถอนโดยใช้คนในชุมชนฯ เป็นผู้ดำเนินการรื้อถอน ซึ่งเป็นมติที่ได้มีการพูดคุยร่วมกันเมื่อสัปดาห์ก่อน.-สำนักข่าวไทย
