กก.สอบฯ บิ๊กดีเอสไอ ประชุมนัดแรกสัปดาห์หน้า

ดีเอสไอ 16 ก.พ.-ยธ.ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ข้าราชการระดับสูงดีเอสไอข่มขู่ ข่มขืน นักธุรกิจสาว เตรียมประชุมสัปดาห์หน้า  


นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) กล่าวถึงกรณีที่สาววัย 38 ปี เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจกองปราบปรามว่าถูกข้าราชการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ ระดับ 9 สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรมข่มขืน พร้อมถ่ายคลิปภาพไว้แบล็คเมล์ พร้อมนำเรื่องร้องเรียนกับ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษต้นสังกัด และได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนแต่เรื่องก็เงียบไปโดยทราบว่า ผลสอบสรุปมีความผิดเล็กน้อยลงโทษแค่ตัดเงินเดือน ซึ่งไม่เป็นธรรม จึงให้ทนายฟ้องศาลจังหวัดพัทยาในคดีข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ว่า เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญระดับสูง จึงเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งดีเอสไอได้รายงานมายังปลัดฯและได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงไปแล้วตั้งแต่วันที่ 6ก.พ.ที่ผ่านมาและได้แจ้งคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาลงนามรับทราบคำสั่งแล้วตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.2561 

อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานจากผู้ถูกกล่าวหาและวางแนวทางกำหนดประเด็นการสอบสวน ซึ่งคณะกรรมการฯ จะเริ่มประชุมนัดแรกในสัปดาห์หน้าและหากมีพยานหลักฐานชัดเจน คาดกระบวนการสอบสวนทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายใน 180 วันตามที่กฎหมายกำหนด แต่หากข้อกล่าวหาของข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมนั้น เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจหน้าที่หรือเป็นอุปสรรคในการสอบสวน กระทรวงฯ ก็สามารถมีคำสั่งให้พักราชการข้าราชการดังกล่าวไว้ก่อนก็ได้ ซึ่งจากพิจารณาเบื้องต้นกรณีดังกล่าวมิได้เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจหน้าที่ทางราชการ  และยังไม่พบว่าเป็นอุปสรรคในการสอบสวนทางวินัย แต่ถ้าหากมีประเด็นดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้นมาในระหว่างการสอบสวนฯ   ก็สามารถมีคำสั่งพักราชการไว้ก่อนได้เช่นเดียวกัน


ทั้งนี้ การดำเนินการสอบวินัยร้ายแรงดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด แต่เป็นการดำเนินการทำคู่ขนานกันไป ซึ่งหากผลการสอบสวนวินัยร้ายแรงเป็นการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริง โทษวินัยร้ายแรงจะมี 2 สถาน คือปลดออก เป็นการลงโทษให้พ้นจากราชการ โดยได้รับบําเหน็จ บํานาญเสมือนผู้นั้นลาออกจากราชการ หรือไล่ออก ซึ่งเป็นการลงโทษให้พ้นจากราชการ โดยไม่ได้รับบําเหน็จ บํานาญ แต่หากผู้ถูกกล่าวหาต้องคำพิพากษาให้จำคุกก็จะต้องไล่ออกสถานเดียว ดังนั้น การลงโทษเพียงแค่ตัดเงินเดือนตามประเด็นข่าวจึงไม่ใช่เป็นข้อเท็จจริง  

อย่างไรก็ตามกระทรวงยุติธรรมก็จำเป็นต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกร้องด้วยเช่นกันและขอยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการภายใต้กรอบเวลาของกฎหมาย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นเสี่ยงร่วมกระทำผิด

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง