กรุงเทพฯ 13 ก.พ.- ผู้บังคับการ ปทส. ยืนยัน นายนพดล พฤกษะวัน รับสารภาพ โทรศัพท์ประสาน “กาญจนา” ให้ “เปรมชัย” และพวก เข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตกจริง โดยมอบไฟฉายให้เพื่อสนับสนุนการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ
พลตำรวจตรีปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน คดีนายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกรวม 4 คนลักลอบล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ในทุ่งใหญ่นเรศวร ว่า เมื่อเย็นวานนี้(12 ก.พ.) นายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประสานขอให้ ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ปทส. ด้วยตัวเอง ก่อนกำหนดนัดหมายในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ตามหมายเรียก ซึ่งขณะนี้นายนพดล ยังอยู่ในฐานะพยาน ที่เข้าให้ข้อมูล หากพนักงานสอบสวน เห็นว่า ข้อมูลเพียงพอแล้วไม่มีข้อสงสัยอื่นใดเพิ่มเติม นายนพดลก็ไม่ต้องมาพบพนักงานสอบสวนในวัน ที่ 16 กุมภาพันธ์นี้
พลตำรวจตรีปัญญา กล่าวเพิ่มเติม ถึงผลการสอบปากคำ โดยนายนพดล ยอมรับ เป็นผู้ติดต่อประสานงานขอเข้าพื้นที่ ระหว่างวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ ให้กับนายเปรมชัย และพวก ผ่าน นางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าจริง แต่อ้างไม่รู้ว่า นายเปรมชัยจะเข้าไปล่าสัตว์ป่าหรือไม่ และหลังได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่ นายนพดล ได้นำไฟฉายไปมอบให้เจ้าหน้าที่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ ที่หน้าด่านตรวจ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ โดยอ้างว่า ในฐานะเป็นอดีตข้าราชการกรมอุทยาน จึงต้องการมอบของใช้จำเปนสำหรับการปฏิบัติงาน ซึ่งข้อมูลนี้สอดคล้องกับคดีให้สินบนเจ้าพนักงาน ฯ ท่ีนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้กับตำรวจ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.ซึ่งตำรวจจะต้องสอบปากคำเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ก่อนว่าคดีมีมูลหรือไม่ หากมีมูลจะประสาน ตำรวจ ปปป. เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา กับ นายนพดล ในข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน ส่วนนางสาวกาญจนาทำหน้าที่ประสานงานให้เท่านั้น เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา
ขณะที่การสืบสวนในคดี กรณีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบร้านอาหารป่า ในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบว่า นายเปรมชัย เข้าซื้ออาหารป่าในร้านก่อนเข้าพื้นที่จริงหรือไม่นั้น ยอมรับ ว่ามีการเข้าไปตรวจสอบจริง และอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ
ส่วนผลการตรวจสอบที่ดินของนายเปรมชัยที่ อ.ภูเรือ จ.เลย เบื้องต้นพบ นายเปรมชัย เคยครอบครองที่ดินหลายแปลง แต่ถูกกรมที่ดิน เพิกถอนไปหลายแปลง หลังมีการตรวจสอบพบว่า เป็นการครอบครองไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่อย่างละเอียด -สำนักข่าวไทย