เข้าใจกันด้วยดี ครูใหญ่ ตชด.บ้านทิไล่ป้า-จนท.ทุ่งใหญ่นเรศวรฯ

กาญจนบุรี 11 ธ.ค.- เคลียร์จบ! ผกก.ตชด.ที่ 13 รุดเจรจาข้อขุ่นข้องกรณีครูใหญ่โรงเรียน ตชด.บ้านทิไล่ป้า โพสต์ถูก จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ห้ามรถผ่านพื้นที่ขณะนำของไปช่วยหมู่บ้านกะเหรี่ยง เผยสองฝ่ายเข้าใจกันด้วยดีแล้ว พร้อมขอให้ผู้แชร์เรื่องราวลบออกทางโซเชียล


กรณีครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านทิไล่ป้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ม.5 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กต่อว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่อนุญาตให้รถวิ่งเข้าพื้นที่ขณะนำสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง

ล่าสุด (11 ธ.ค.) นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ได้รายงานข้อเท็จจริงต่อสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานฯ ต่อกรณีดังกล่าวว่า 1.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มีชุมชนชาวกะเหรี่ยงอยู่อาศัยจำนวน 6 หมู่บ้าน โดยโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทิไล่ป้า ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์ทุ่งใหญ่ฯ ท้องที่บ้านทิไล่ป้า ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี


2. การเข้าไปบริจาคสิ่งของ เลี้ยงอาหารกลางวัน หรือทำกิจกรรม เพื่อสนับสนุนสถานการศึกษา ที่ตั้งอยู่ในเขตฯทุ่งใหญ่ฯ นั้น สถานศึกษาในพื้นที่ เขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ ได้ทำความตกลงกับเขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ ว่า สถานศึกษานั้น จะพิจารณากลั่นกรองและทำเอกสารขออนุญาตผ่านหัวหน้าเขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันการแอบอ้างจากกลุ่มนักท่องเที่ยว หลังจากนั้นเขตฯทุ่งใหญ่ฯ จะได้ทำความเห็นและส่งเรื่องไปยัง สบอ.3 (บ้านโป่ง) เพื่อโปรดพิจารณาให้เข้าทำกิจกรรมตามความประสงค์ต่อไป

3. ในแต่ละปี ชาวกะเหรี่ยงตำบลไล่โว่ จะจัดงานประเพณีงานฟาดข้าว ซึ่งเป็นวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง โดยในปี 2561 ได้กำหนดจัดงานดังกล่าวในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ณ หมู่บ้านทิไล่ป้า ซึ่งการเข้าไปร่วมงานประเพณีงานฟาดข้าวดังกล่าวเขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ ไม่เคยขัดข้องหากจะมีนักท่องเที่ยวหรือกลุ่มจิตอาสาขอเข้าไปร่วมงานประเพณี อีกทั้งเขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ ก็ได้แจ้งแนวทางปฏิบัติในการประชุมอำเภอสังขละบุรีแล้ว เพื่อให้หน่วยงานราชการ ผู้นำชุมชน และประชาชนทราบ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 ตลอดมา โดยให้นักท่องเที่ยว หรือบุคคลภายนอกที่ประสงค์จะร่วมงานฟาดข้าว ดำเนินการขออนุญาตเข้าไปในเขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ ให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมายและแนวทางปฏิบัติที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งทุกฝ่ายทราบดีอยู่แล้ว ส่วนประชาชนสามารถเข้าไปร่วมงานประเพณีฟาดข้าวได้ตามวิถีประเพณี มิได้ปิดกั้นแต่อย่างใด

4. ช่วงวันที่ 8-9 ธันวาคม 2561 ได้มีคณะท่องเที่ยวกลุ่มจิตอาสา หรือกลุ่มบริจาคสิ่งของโดยใช้รถยนต์ออฟโรด จำนวน 43 คัน เดินทางโดยใช้เส้นทางด่านเจดีย์สามองค์ ประเทศเมียนมา- ช่องสามัคคี-บ้านปางสนุก เมื่อเดินทางมาถึงจุดตรวจหน่วยพิทักษ์ป่าลังกา แต่ละกลุ่มแจ้งว่าจะขอไปร่วมงานฟาดข้าวที่หมู่บ้านทิไล่ป้า และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ฯ พบว่ามีหนังสืออนุญาตให้เข้าพื้นที่เขตฯทุ่งใหญ่ฯ เพียง 1 คณะ รถยนต์ 1 คัน ส่วนคณะที่เหลือไม่มีหนังสืออนุญาตแต่อย่างใด พนักงานเจ้าหน้าที่จึงไม่อนุญาตให้ผ่าน แต่ผ่อนปรนให้พักแรมบริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าลังกา จึงเป็นเหตุให้ ร.ต.อ. เอนก คำภิมูล ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทิไล่ป้า ซึ่งเป็นคนนำคณะออฟโรดจำนวน 6 คัน เข้ามาเกิดความไม่พอใจว่า จนท.ป่าไม้ขัดขวางคณะที่จะนำอาหารกลางวันไปเลี้ยงนักเรียน รวมทั้งตำหนิ ด่าทอ และข่มขู่เจ้าหน้าที่ฯ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฯ อนุญาตให้เฉพาะ ร.ต.อ. เอนก และหน่วยงานราชการที่เข้าไปปฏิบัติงาน ส่วนประชาชนในพื้นที่ผ่านเข้าไปได้ แต่ไม่ยินยอมให้นักท่องเที่ยวที่อ้างว่าติดตาม ร.ต.อ.เอนก ผ่านเข้าไปได้ เนื่องจากหากผ่อนปรนให้เข้าไปได้ นักท่องเที่ยวรายอื่นก็จะโต้แย้งว่าเลือกปฏิบัติ จึงเป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจ และเกิดข่าวลงในสื่อต่างๆขึ้น


ต่อมาเวลา 14.00 น.  พ.ต.อ.ทศพร ปทุมยา ผกก.ตชด.ที่ 13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) จ. กาญจนบุรี เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มายังโรงเรียนบ้านทิไล่ป้า เพื่อติดตามกรณีดังกล่าวในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของ ร.ต.อ.เอนก ซึ่งนำเรื่องราวลงโซเชียลตำหนิเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ นเรศวร โดย พ.ต.อ.ทศพร ได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.ท.วรากร วิทยาบำรุง ผบ.ร้อย ตชด.134 ร.ต.อ.เอนก  นายรัตนชัย เขยชัย หัวหน้าศูนย์พิทักษ์ป่าที่ 4 (บ้านเสน่ห์พ่อง) นายภากร เคียวเซ็ง ผู้ใหญ่บ้านทิไล่ป้า  นายแดน เนตรสน ครู คศ.2 และเจ้าหน้าที่ อบต.ไล่โว่ เพื่อแก้ไขข้อขัดแย้ง และวางแนวทางการปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวอีก

การประชุมใช้เวลานานกว่า 1ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุป 3 ข้อ ประกอบด้วย 1. ข้อมูลที่เผยแพร่ตามสื่อเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่เผยแพร่ไปหลังจากรอให้เกิดความเสียหายความขัดแย้งไปสู่การชี้แจงให้ทุกฝ่ายงดการดำเนินการดังกล่าว 2. ข้อมูลที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ดำเนินการช่วยลบออกให้หมดทุกก่อนนี้ และ 3. ขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการร่วมงานโดยยึดถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง หากมีปัญหาให้นัดหมายประชุมพูดคุยในระดับพื้นที่ หากไม่สามารถได้ข้อสรุปให้ทำรายงานไปตามสายบังคับบัญชา 

พ.ต.อ.ทศพร กล่าวว่า หลังจากมีข่าวออกมา ทุกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ  ผู้บังคับบัญชาระดับสูงจึงสั่งการให้ตนลงพื้นที่มาร่วมพูดคุยและตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการหารือปรับความเข้าใจกันร่วมกันระหว่างหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.เอนก และนายแดน ยังได้พูดคุยปรับความเข้าใจ พร้อมจับมือร่วมกันเป็นการยอมรับในการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละฝ่าย และเข้าใจกันด้วยดี

นายแดน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม ซึ่งตนเองรับราชการอยู่ในพื้นที่นี้มาหลาย 10 ปี จึงผูกพันและรักป่า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]

อัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีนอมินี ตึกสตง.

5 มิ.ย. – พนักงานอัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีตึก สตง.ถล่ม ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า วันนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง.ถล่ม ในส่วนของความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ มาตรา 36 มาตรา 37 และมาตรา 41 ในทุกข้อหา ยกเว้น นายประจวบ ศิริเขตร ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหา ตามมาตรา 41 ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายโสภณ มีชัย, นายประจวบ ศิริเขตร, นายมานัส ศรีอนันท์,นายชวนหลิง จาง ชาวจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ และ […]

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]