กาญจนบุรี 11 ธ.ค.- เคลียร์จบ! ผกก.ตชด.ที่ 13 รุดเจรจาข้อขุ่นข้องกรณีครูใหญ่โรงเรียน ตชด.บ้านทิไล่ป้า โพสต์ถูก จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ห้ามรถผ่านพื้นที่ขณะนำของไปช่วยหมู่บ้านกะเหรี่ยง เผยสองฝ่ายเข้าใจกันด้วยดีแล้ว พร้อมขอให้ผู้แชร์เรื่องราวลบออกทางโซเชียล
กรณีครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านทิไล่ป้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ม.5 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กต่อว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่อนุญาตให้รถวิ่งเข้าพื้นที่ขณะนำสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง
ล่าสุด (11 ธ.ค.) นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ได้รายงานข้อเท็จจริงต่อสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานฯ ต่อกรณีดังกล่าวว่า 1.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มีชุมชนชาวกะเหรี่ยงอยู่อาศัยจำนวน 6 หมู่บ้าน โดยโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทิไล่ป้า ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์ทุ่งใหญ่ฯ ท้องที่บ้านทิไล่ป้า ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
2. การเข้าไปบริจาคสิ่งของ เลี้ยงอาหารกลางวัน หรือทำกิจกรรม เพื่อสนับสนุนสถานการศึกษา ที่ตั้งอยู่ในเขตฯทุ่งใหญ่ฯ นั้น สถานศึกษาในพื้นที่ เขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ ได้ทำความตกลงกับเขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ ว่า สถานศึกษานั้น จะพิจารณากลั่นกรองและทำเอกสารขออนุญาตผ่านหัวหน้าเขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันการแอบอ้างจากกลุ่มนักท่องเที่ยว หลังจากนั้นเขตฯทุ่งใหญ่ฯ จะได้ทำความเห็นและส่งเรื่องไปยัง สบอ.3 (บ้านโป่ง) เพื่อโปรดพิจารณาให้เข้าทำกิจกรรมตามความประสงค์ต่อไป
3. ในแต่ละปี ชาวกะเหรี่ยงตำบลไล่โว่ จะจัดงานประเพณีงานฟาดข้าว ซึ่งเป็นวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง โดยในปี 2561 ได้กำหนดจัดงานดังกล่าวในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ณ หมู่บ้านทิไล่ป้า ซึ่งการเข้าไปร่วมงานประเพณีงานฟาดข้าวดังกล่าวเขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ ไม่เคยขัดข้องหากจะมีนักท่องเที่ยวหรือกลุ่มจิตอาสาขอเข้าไปร่วมงานประเพณี อีกทั้งเขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ ก็ได้แจ้งแนวทางปฏิบัติในการประชุมอำเภอสังขละบุรีแล้ว เพื่อให้หน่วยงานราชการ ผู้นำชุมชน และประชาชนทราบ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 ตลอดมา โดยให้นักท่องเที่ยว หรือบุคคลภายนอกที่ประสงค์จะร่วมงานฟาดข้าว ดำเนินการขออนุญาตเข้าไปในเขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ ให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมายและแนวทางปฏิบัติที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งทุกฝ่ายทราบดีอยู่แล้ว ส่วนประชาชนสามารถเข้าไปร่วมงานประเพณีฟาดข้าวได้ตามวิถีประเพณี มิได้ปิดกั้นแต่อย่างใด
4. ช่วงวันที่ 8-9 ธันวาคม 2561 ได้มีคณะท่องเที่ยวกลุ่มจิตอาสา หรือกลุ่มบริจาคสิ่งของโดยใช้รถยนต์ออฟโรด จำนวน 43 คัน เดินทางโดยใช้เส้นทางด่านเจดีย์สามองค์ ประเทศเมียนมา- ช่องสามัคคี-บ้านปางสนุก เมื่อเดินทางมาถึงจุดตรวจหน่วยพิทักษ์ป่าลังกา แต่ละกลุ่มแจ้งว่าจะขอไปร่วมงานฟาดข้าวที่หมู่บ้านทิไล่ป้า และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ฯ พบว่ามีหนังสืออนุญาตให้เข้าพื้นที่เขตฯทุ่งใหญ่ฯ เพียง 1 คณะ รถยนต์ 1 คัน ส่วนคณะที่เหลือไม่มีหนังสืออนุญาตแต่อย่างใด พนักงานเจ้าหน้าที่จึงไม่อนุญาตให้ผ่าน แต่ผ่อนปรนให้พักแรมบริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าลังกา จึงเป็นเหตุให้ ร.ต.อ. เอนก คำภิมูล ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทิไล่ป้า ซึ่งเป็นคนนำคณะออฟโรดจำนวน 6 คัน เข้ามาเกิดความไม่พอใจว่า จนท.ป่าไม้ขัดขวางคณะที่จะนำอาหารกลางวันไปเลี้ยงนักเรียน รวมทั้งตำหนิ ด่าทอ และข่มขู่เจ้าหน้าที่ฯ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฯ อนุญาตให้เฉพาะ ร.ต.อ. เอนก และหน่วยงานราชการที่เข้าไปปฏิบัติงาน ส่วนประชาชนในพื้นที่ผ่านเข้าไปได้ แต่ไม่ยินยอมให้นักท่องเที่ยวที่อ้างว่าติดตาม ร.ต.อ.เอนก ผ่านเข้าไปได้ เนื่องจากหากผ่อนปรนให้เข้าไปได้ นักท่องเที่ยวรายอื่นก็จะโต้แย้งว่าเลือกปฏิบัติ จึงเป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจ และเกิดข่าวลงในสื่อต่างๆขึ้น
ต่อมาเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.ทศพร ปทุมยา ผกก.ตชด.ที่ 13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) จ. กาญจนบุรี เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มายังโรงเรียนบ้านทิไล่ป้า เพื่อติดตามกรณีดังกล่าวในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของ ร.ต.อ.เอนก ซึ่งนำเรื่องราวลงโซเชียลตำหนิเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ นเรศวร โดย พ.ต.อ.ทศพร ได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.ท.วรากร วิทยาบำรุง ผบ.ร้อย ตชด.134 ร.ต.อ.เอนก นายรัตนชัย เขยชัย หัวหน้าศูนย์พิทักษ์ป่าที่ 4 (บ้านเสน่ห์พ่อง) นายภากร เคียวเซ็ง ผู้ใหญ่บ้านทิไล่ป้า นายแดน เนตรสน ครู คศ.2 และเจ้าหน้าที่ อบต.ไล่โว่ เพื่อแก้ไขข้อขัดแย้ง และวางแนวทางการปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวอีก
การประชุมใช้เวลานานกว่า 1ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุป 3 ข้อ ประกอบด้วย 1. ข้อมูลที่เผยแพร่ตามสื่อเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่เผยแพร่ไปหลังจากรอให้เกิดความเสียหายความขัดแย้งไปสู่การชี้แจงให้ทุกฝ่ายงดการดำเนินการดังกล่าว 2. ข้อมูลที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ดำเนินการช่วยลบออกให้หมดทุกก่อนนี้ และ 3. ขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการร่วมงานโดยยึดถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง หากมีปัญหาให้นัดหมายประชุมพูดคุยในระดับพื้นที่ หากไม่สามารถได้ข้อสรุปให้ทำรายงานไปตามสายบังคับบัญชา
พ.ต.อ.ทศพร กล่าวว่า หลังจากมีข่าวออกมา ทุกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงจึงสั่งการให้ตนลงพื้นที่มาร่วมพูดคุยและตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการหารือปรับความเข้าใจกันร่วมกันระหว่างหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.เอนก และนายแดน ยังได้พูดคุยปรับความเข้าใจ พร้อมจับมือร่วมกันเป็นการยอมรับในการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละฝ่าย และเข้าใจกันด้วยดี
นายแดน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม ซึ่งตนเองรับราชการอยู่ในพื้นที่นี้มาหลาย 10 ปี จึงผูกพันและรักป่า.-สำนักข่าวไทย