กรุงเทพฯ 6 ต.ค. – กรมชลประทานเพิ่มระบายน้ำท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องจากฝนตกน้ำไหลเข้าเขื่อนมาก อีก 5 วันน้ำจะเต็มเขื่อน จึงปรับให้ปริมาณน้ำที่ระบายออกมากกว่าปริมาณน้ำไหลเข้า
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาณน้ำ 867 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 90 ของความจุอ่าง เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ถึง 4 ตุลาคมมีฝนตกเหนือเขื่อน จึงมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมาก หากไม่เพิ่มการระบายน้ำจะเต็มอ่างวันที่ 11 ตุลาคม ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องจนถึงวันที่ 11 ตุลาคมนี้ กรมชลประทานจึงจะปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากวันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 47-50 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มขึ้น กรมชลประทานจะใช้เขื่อนพระรามหกเป็นเครื่องมือหน่วงน้ำไม่ให้เกิดผลกระทบต่ออำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยจะระบายท้ายเขื่อนพระรามหก ไม่เกิน 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากศักยภาพของเขื่อนพระรามหกรับได้ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หากเกินจะเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง นอกจากนี้ จะเร่งระบายน้ำออกระบบชลประทานทั่งฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันออกจะระบายออกแม่น้ำนครนายกและแม่น้ำบางปะกงออกชายทะเล ฝั่งตะวันตกระบายออกแม่น้ำท่าจีน
“กรมชลประทานขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และเขื่อนพระรามหกให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากมีความจำเป็นต้องระบายน้ำเกินกว่าแผนที่กำหนดจะรีบแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับสถานการณ์” รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว.-สำนักข่าวไทย