ดินแดง12ก.พ.-อธิบดีกรมสวัสดิการฯ สั่งการเจ้าหน้าที่เร่งทำความเข้าใจผู้เกี่ยวข้อง กรณีค่าตอบแทนผู้รับงานไปทำที่บ้าน ต้องไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ก่อนมีผลใช้บังคับ 1 เม.ย.นี้
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการค่าจ้าง มีมติปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำระหว่าง 5-22 บาทต่อวัน โดยทั่วประเทศมีอัตราค่าจ้างตั้งแต่ 308-330 บาทซึ่งจะมีผลบังคับตั้งแต่ 1เม.ย.2561 ซึ่งการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะมีผลต่อลูกจ้างทั้งระบบ รวมถึงผู้รับงานไปทำที่บ้าน โดยประกาศคณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทำที่บ้าน เรื่องอัตราค่าตอบแทนในงานที่รับไปทำที่บ้าน กำหนดให้อัตราค่าตอบแทนของผู้รับงานไปทำที่บ้านต้องไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนดไว้ โดยคำนวณได้จากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำหารด้วยจำนวนชิ้นงานเฉลี่ยที่ลูกจ้างทำได้ภายใน 8 ชั่วโมงทำงาน เมื่ออัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่มีผลใช้บังคับ ผู้ว่าจ้างต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้านไม่น้อยกว่าอัตรากว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดนั้น ๆ ด้วย หากผู้ว่าจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือทั้งจำทั้งปรับ
อธิบดีกรมสวัสดิการฯ กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงาน เร่งประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้ผู้ว่าจ้าง ผู้รับงานไปทำที่บ้าน และผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบเพื่อปฏิบัติได้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองคุ้มครองแรงงานนอกระบบ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือโทรศัพท์สายด่วน 1506 กด 3 .-สำนักข่าวไทย