นายกฯ วอนหยุดจับผิดโครงการไทยนิยมยั่งยืน

เมืองทอง 9 ก.พ.-นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายไทยนิยมยั่งยืน ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เน้นความเท่าเทียม เป็นธรรม ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หยุดจับผิดโครงการ ว่าจะทำให้รัฐบาลอยู่ยาว เลิกมองแง่ร้าย จับผิดการใช้งบประมาณ  ย้ำโครงการไทยนิยมยั่งยืน ไม่ใช่ชาตินิยม หรือประชานิยม  จี้ผู้ว่าฯ ช่วยดูแลพื้นที่ป่า เพราะเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีน้อย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการมอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อน การพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน ให้กับคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และวิทยากรระดับจังหวัดกว่า 2,800 คน ในการสร้างความรู้ความเข้าใจปรับกระบวนการทางความคิดของประชาชน ให้มีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ ภายใต้กรอบวาระงาน 10 เรื่องสำคัญของพื้นที่ อาทิ สัญญาประชาคมผูกใจไทยเป็นหนึ่ง คนไทยไม่ทิ้งกัน วิถีไทย วิถีพอเพียง รู้สิทธิ รู้หน้าที่ รู้กฎหมาย และรู้รักประชาธิปไตยไทยนิยม ซึ่งทีมขับเคลื่อนในระดับตำบล จะมีคณะกรรมการขับเคลื่อนลงพื้นที่ 878 อำเภอ 83,151 หมู่บ้าน เริ่มลงพื้นที่ได้วันที่ 21 ก.พ. นี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคนร่วมกันทำความฝันที่ยิ่งใหญ่ให้เป็นจริง ผ่านการขับเคลื่อนระดับบนไปสู่พื้นที่ ให้ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกระดับให้ได้  ตอบสนองสองเรื่องสำคัญ คือ ความเท่าเทียมและเป็นธรรม ทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขี้น  ต้องขับเคลื่อนโครงการนี้ให้ได้ อย่ามาตีความหรือตั้งแง่ว่าโครงการนี้จะทำให้รัฐบาลอยู่ยาว ซึ่งไม่เป็นความจริง อย่ามองในแง่ร้าย จับผิดการใช้งบประมาณ  ขอให้มองประเทศเป็นที่ตั้ง เอาความขัดแย้งไว้ข้างหลัง


“รัฐบาลไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง  รัฐบาลจึงเป็นของประชาชนทั้งประเทศ ตามกรอบประชาธิปไตย เน้นการพัฒนาคน ไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ตามเทคโนโลยีให้ทัน และอยากให้วิทยากร หรือผู้ปฎิบัติงานที่ลงพื้นที่ ไปทำความเข้าใจสร้างหลักคิดที่ถูกต้อง เกี่ยวกับเรื่องความเหลื่อมล้ำ การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง แก้ปัญหาเรื่องการปรองดอง และการไม่ยึดหลักกฎมาย ทุกคนจะต้องสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อย พ้นจากความยากจน  สร้างความเชื่อมโยง สร้างนวัตกรรม เพิ่มมูลค่าโดยยึดความต้องการ ของพื้นที่เป็นหลัก นำข้อมูลหรือ บิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์ เชื่อมโยงแผนงานอย่างบูณรณาการ เพื่อกำหนดงบประมาณลงไปในพื้นที่ ตามแผนงานและยุทธศาสตร์ชาติ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การจัดทำแผน หรือโครงการ ทุกหน่วยงานต้องทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะเป็นตัวแทนประชาชนในพื้นที่ ทำตามความต้องการของประชาชน และเน้นสร้างความเข้าใจ ในการดำเนินการโครงการต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลนี้มีหลายโครงการ และหลายเรื่องที่ต้องทำ ข้าราชการต้องทำงานหนัก อย่างการดูแลพื้นที่ป่า อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เข้าไปมีส่วนรวมช่วยดูแล ไม่ควรปล่อยให้เป็นความรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เท่านั้น เพราะมีกำลังคนน้อย ดูแลไม่ทั่วถึงทำให้ผืนป่าถูกบุกรุกไปมาก จึงต้องมีหลายหน่วยงานเข้ามาดูแลช่วยกันจึงจะเป็นผลดี 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เวทีสัญญาประชาคม ต้องตอบสนอง ใน 10 ข้อที่รัฐบาลวางไว้ หรือจะมากกว่านั้นให้ได้ ซึ่งวิทยากรต้องรับมา เพื่อนำมาเป็นข้อมูล แล้วทำตามความต้องการของคนในพื้นที่  อยากให้ดูเรื่องที่อยู่อาศัย สำหรับผู้มีรายได้น้อย และการลงพื้นที่ต้องตรวจสอบผู้มีรายได้น้อย ที่แท้จริง ไม่ใช่ปล่อยให้มีการแอบอ้าง เป็นผู้มีรายได้น้อยอีกต่อไป 


“โครงการไทยนิยมยั่งยืน คือการทำความดี ความงามให้กับประเทศ ไม่ใช่การสร้างชาตินิยม และไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นการปฎิรูปประเทศ บนพื้นฐานของความเป็นไทย ที่ไม่ทิ้งหลักการสากล จึงอยากขอความร่วมมือทุกคน ช่วยกัน ลดละ การสร้างประเด็นความขัดแย้ง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้วิทยากรทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องประชาธิปไตย และสร้างไทยเป็นหนึ่ง ไม่ควรจะพูดแต่เรื่องความปรองดอง ยากให้ทำความเข้าใจเรื่องการเลือกตั้งระบบใหม่  เพราะมีบางคนไปกล่าวอ้างว่า จะไม่ไปเลือกตั้ง ต้องการให้รัฐบาลอยู่ต่อ  ซึ่งตนยังไม่รู้ว่าจะอยู่ต่ออย่างไร แต่อยากให้ทุกคนไปเลือกตั้ง เลือกพรรคการเมือง ที่แสดงยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาประเทศ แม้ว่าตอนนี้ตนจะยังไม่เห็นพรรคใดวางนโยบายไว้แล้ว มีแต่นักการเมืองที่พูดกล่าวโจมตีในประเด็นทางการเมืองนอกเวที ทั้งที่ความจริงต้องมาพูดกับรัฐบาล .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน […]

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

“ภูมิธรรม” เผยวงถก สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกัมพูชา

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยที่ประชุม สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา แต่ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ความรุนแรงเป็นสิ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าวันนี้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนมั้งหมด ยังยืนยันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ยังใช้มาตรการเดิมเพราะเป็นมาตรการที่ยังใช้ได้ และยืนยันจะใช้สันติวิธีและพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบ ไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเจรจาของทั้งสองฝ่าย ส่วนการปิดด่านผ่านแดง ยังอยู่ใน ขั้นที่หนึ่งและสอง คือการจำกัดเวลาเข้าออก และการอนุญาตตัวบุคคล สิ่งที่กัมพูชาประกาศมาตรการใดๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่านต่างๆ ถือเป็นเหตุและผลของกัมพูชา แต่ของไทยยังยืนยันในความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ส่วนมากมาตรการ seal stop safe อยากให้กลับไปทบทวน ว่า สิ่งที่ดำเนินการไป 3-4 เดือน ให้เร่งดำเนินการประเมินผล ว่ายังต้องคงมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า อยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ชายแดน ส่วนที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไปลึกกว่านั้น ก็ต้องดูว่าจะจัดการอย่างไร โดยมอบหมายให้คณะเล็กไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม ครบรอบจากสถาปนาความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม […]