มอสโก 29 มี.ค. – เจ้าหน้าที่สอบสวนของรัสเซียกล่าววานนี้ว่า พบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า กลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุสังหารหมู่ประชาชนมากกว่า 140 คนที่สถานที่แสดงดนตรี หรือ คอนเสิร์ต ฮอลล์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มชาตินิยมยูเครน แต่สหรัฐตอบโต้ในทันทีว่า เป็นคำกล่าวอ้างและโฆษณาชวนเชื่อที่ไม่มีหลักฐาน
รัสเซียกล่าวหาตั้งแต่เกิดเหตุว่า รัฐบาลมอสโกเชื่อว่า ยูเครนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีในครั้งนี้ แม้ว่า รัฐบาลเคียฟจะออกมาปฎิเสธอย่างแข็งขันในขณะเดียวกัน กลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ซึ่งเป็นมุสลิมติดอาวุธออกมาอ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ และเมื่อวานนี้ คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียกล่าวในแถลงการณ์เป็นครั้งแรกว่า พบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าเหตุการณ์นี้มีความเกี่ยวโยงกับยูเครน แต่ก็ไม่ได้มีการเปิดเผยหลักฐานที่ว่านี้แต่อย่างใด โดยระบุแต่เพียงว่า หลักฐานนี้ได้จากการสอบปากคำผู้ก่อการร้ายที่ก่อเหตุ ศึกษาอุปกรณ์ทางด้านเทคนิคที่ยึดมาได้จากผู้ก่อเหตุและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน คณะกรรมการสอบสวนกล่าวด้วยว่า มีข้อมูลที่ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุได้รับเงินสดจำนวนมากรวมถึงเงินดิจิทัลจากยูเครน เจ้าหน้าที่รัสเซียยังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีกคนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนด้านการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย
ทางด้านนายจอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า ข้อกล่าวหาของรัสเซียเป็นเรื่องเหลวไหลและเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ พร้อมกับกล่าวว่า กลุ่มไอเอส อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุในครั้งนี้ เขากล่าวด้วยว่า ความจริงแล้ว สหรัฐพยายามช่วยป้องกันมิให้เกิดเหตุโจมตีในครั้งนี้ และรัสเซียก็ทราบเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้เตือนรัสเซียว่า หน่วยข่าวกรองได้รับข้อมูลว่า กลุ่มที่มีแนวคิดสุดโต่งวางแผนจะโจมตีกรุงมอสโกเร็ว ๆ นี้ นายเคอร์บีกล่าวว่า สหรัฐยังได้ส่งจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรไปแจ้งหน่วยข่าวกรองรัสเซียตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา
ทางด้านโฆษกของกลุ่มไอเอส แถลงผ่านทางแอปพลิเคชั่น “เทเลแกรม” วานนี้ แสดงความชื่นชมการโจมตีคอนเสิร์ตฮอลล์ พร้อมทั้งย้ำให้ผู้สนับสนุนเล็งเป้าหมายในการก่อเหตุโจมตีในทุก ๆ สถานที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐ ยุโรปและอิสราเอล.-813.-สำนักข่าวไทย