กทม. 8 ก.พ. – การดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ซึ่งถูกจับกุมฐานร่วมล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ล่าสุดตำรวจประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเชิญหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรให้ข้อมูลในทุกมิติ เพื่อขยายผลดำเนินคดีในทุกภาคส่วน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย กับพวกรวม 4 คน หลังตกเป็นผู้ต้องหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก โดยเตรียมพนักงานสอบสวน 5 ชุด เข้าสอบปากคำไล่เลียงเหตุการณ์ในช่วงก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ
นายวิเชียร ชิณวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก กล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงที่มีการต่อรองการจับกุม โดยเชื่อว่าเป็นความพยายามดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ แต่ไม่รู้สึกหวั่นไหว เพราะที่ผ่านมาต่อสู้รักษาป่ามาโดยตลอด ส่วนหัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ระบุว่า จากหลักฐานในที่เกิดเหตุพบผู้ต้องหามีพฤติกรรมล่าสัตว์ชัดเจน ส่วนจะกล่าวอ้างว่ายิงเสือดำเพื่อป้องกันตัวนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะธรรมชาติของสัตว์ป่าจะเกรงกลัวคน ส่วนคลิปเสียงเจรจาต่อรอง เบื้องต้นพบว่าอาจเป็นเสียงของนายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาร่วมในคดี
ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ขยายผลสอบสวนทุกประเด็น แต่ยังไม่ได้โอนคดีดังกล่าวให้ส่วนกลางดูแล ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ บอกว่า จากการตรวจสอบปืน 43 กระบอก ที่พบในบ้านพักของนายเปรมชัย พบมีทะเบียนทุกกระบอก แต่จะเป็นการออกทะเบียนเกินความจำเป็นหรือไม่ เป็นหน้าที่ของกรมการปกครองเข้าไปตรวจสอบ ขณะที่งาช้าง 4 กิ่ง ที่ตรวจพบ กำลังพิสูจน์ว่าเป็นงาช้างไทยหรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่ จึงอาจเป็นงาที่ไม่มีทะเบียน ส่วนกรณีพบภาพหนังสือโคร่งในห้องทำงานของนายเปรมชัย พบว่าเป็นภาพเก่าที่เผยแพร่เมื่อ 20 ปีก่อน คดีหมดอายุความไปแล้ว
สำหรับวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ซึ่งเป็นวาระเร่งด่วนกรณีประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ถูกจับกุม ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกว่า ที่ผ่านมีมาตรการดูแลป่าที่เหมาะสม จึงไม่จำเป็นต้องถึงขั้นปิดผืนป่า ส่วนทางคดีได้กำชับให้เจ้าหน้าที่หาหลักฐานให้ชัดเจน เพื่อช่วยเหลือตำรวจ พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่ช่วยกันทำงานและปกป้องผืนป่าโดยไม่ต้องเกรงกลัวผู้มีอิทธิพล
หลังจากการเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ปากคำที่ บก.ปทส. พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า กำลังให้ตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบเข้าไปตรวจสอบว่ามีความพยายามติดสินบนหรือไม่ หากมีหลักฐานว่าเป็นการพูดโน้มน้าวแล้วก็ถือว่ามีความผิด ส่วนปืน 43 กระบอก และงาช้าง 4 กิ่ง กำลังรอผลตรวจสอบ ส่วนคราบเขม่าดินปืนว่าใครเป็นคนยิง ต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน คาดอย่างช้าไม่เกิน 1 เดือน ยืนยันพนักงานสอบสวนจะทำสำนวนอย่างรัดกุม แต่พยานหลักฐานชัดเจนว่านายเปรมชัยและพวกมีความผิดชัดเจนโดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นผู้ยิงเสือ และย้ำว่าคดีนี้ไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูแน่นอน
ส่วนสถานภาพล่าสุดของนายเปรมชัย กำชับให้ ตม.รายงานทันที หากพบว่าทั้งหมดจะเดินทางออกนอกประเทศ ล่าสุดเมื่อเช้าพบว่านายเปรมชัยยังอยู่ใน กทม. เจ้าหน้าที่ยังสามารถติดต่อได้ โดยทั้งหมดยังอยู่ในเงื่อนไขประกันตัวของศาล และต้องมารายงานตัวทุกๆ 12 วัน. – สำนักข่าวไทย