สมุทรสาคร 1 ก.พ.- ตำรวจรวบตัวครูฝ่ายปกครอง วัย 52 ปี ขณะจะผูกคอฆ่าตัวตาย หนีคดีข่มขืน เด็กอายุ 13 ปี ด้านเด็กเผยถูกข่มขืนมาแล้ว 3 ครั้ง
จากกรณีที่พลเมืองดี ร้องทุกข์มายังเพจ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เมื่อวันที่ 30 ม.ค. แจ้งว่า เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นม. 1 โรงเรียนใน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ถูกครูฝ่ายปกครอง อายุ 52 ปี ข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งมารดายังไม่ได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือนั้น
หลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่อง ได้ติดต่อสอบถามรายละเอียดจากมารดาของเด็กทันที โดยมารดาเล่าว่า 2 วันก่อน ลูกสาว มีพฤติกรรมก้าวร้าว ทะเลาะโต้เถียงกับผู้เป็นพ่อรุนแรง ตนจึงขู่ลูกไปว่าจะนำเรื่องไปฟ้องครูฝ่ายปกครองที่โรงเรียนให้ทำโทษ หลังลูกได้ยินเท่านั้นก็ร้องไห้ฟูมฟายแล้วพูดว่า “แม่ไม่รู้หรอกว่าครูฝ่ายปกครองเขาทำอะไรหนูบ้าง” จากนั้นก็วิ่งหนีเข้าห้องนอนไป ต่อมาตนพยายามสอบถามลูกว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ลูกก็ไม่ยอมบอก จนต้องเรียกลูกพี่ลูกน้องมาช่วยเกลี้ยกล่อมจนลูกยอมเล่าเรื่องทั้งหมด ว่าตอนที่เรียนอยู่ชั้นป.6 ช่วงเทอม 2 ได้ถูกครูฝ่ายปกครอง เรียกไปพบที่ห้องในช่วงวันหยุด ขู่จะทำโทษ จากนั้นก็เข้ามากอดจูบบังคับข่มขืนภายในห้องดังกล่าว หลังจากที่ข่มขืนเสร็จแล้วห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครมิฉะนั้นจะเอารูปที่ตนถ่ายเปลือยกายไปเผยแพร่ให้ถูกไล่ออกจากโรงเรียน
เด็กหญิงเอ เล่าอีกว่า หลังจากนั้นก็ไม่กล้าบอกใคร เมื่อไปโรงเรียนก็พยายามหลบหน้าครูฝ่ายปกครองรายนี้ แต่ครูก็มาดักเจอและบังคับให้หนูไปรอนอกโรงเรียนก่อนจะพาไปโรงแรมย่านอ้อมน้อย โดยได้ทำการข่มขืนอีก 2 ครั้ง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา ได้เดินทางไปพบกับ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมพามารดา และเด็กผู้เสียหาย เข้าแจ้งความที่ สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.กระทุ่มแบนได้ไปควบคุมตัวครูรายนี้ได้ที่บ้านพักขณะพยายามจะผูกคอฆ่าตัวตาย แต่เจ้าหน้าที่ช่วยไว้ได้ทัน และนำตัวมาสอบสวน ซึ่งให้การรับสารภาพว่ากระทำจริง จึงได้นำตัวดำเนินคดีในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี, กักขังหน่วงเหนี่ยว,พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารและไม่ได้ให้ประกันตัวแต่อย่างใด พร้อมส่งเด็กไปตรวจร่างกายหาร่องรอยการถูกข่มขืน โดยได้มีสหวิชาชีพมาร่วมในการสอบปากคำ ซึ่งปรากฏว่าเด็กยังยืนยันที่จะเรียนที่โรงเรียนเดิมต่อไปเนื่องจากครูผู้ก่อเหตุได้ถูกจับกุมตัวแล้ว.-สำนักข่าวไทย