กรุงเทพฯ 27 ม.ค. – ค่าเงินบาท-ตลาดหุ้น ลุ้นผลประชุมเฟด ตัวเลขเศรษฐกิจ ธปท. คาดเงินบาทอยู่ในกรอบ 31.00-31.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ส่วนหุ้นไทยมีแนวรับ 1,810-1,820 จุด
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่าการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมา (22-29 ม.ค.) ขยับแข็งค่าหลุดแนว 31.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มาแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 4 ปี ในราคา 31.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินในภูมิภาค โดยสกุลเงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงขาย หลังคำกล่าวของรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุว่า การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ เป็นผลดีต่อการค้าของสหรัฐฯ ตลาดจึงตีความว่า สหรัฐสนับสนุนให้เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลง และแข็งค่าของเงินบาทเริ่มจำกัดลงในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากที่ผู้ว่าการธปท. ส่งสัญญาณ ยกระดับการดูแลและเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด และพร้อมทบทวนมาตรการเพิ่มเติมหากค่าเงินเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ สำหรับในวันศุกร์ (26 ม.ค.) เงินบาทปิดราคา 31.36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับระดับราคา 31.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (19 ม.ค.)
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้า (29 ม.ค.-2 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในระดับราคา 31.00-31.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ เช่น ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI ภาคการผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. และตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนธ.ค. 2560 ของ ธปท.
สำหรับการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย กลับมาฟื้นตัวบางส่วนปลายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,828.88 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.41 จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณร้อยละ 13.53 จากสัปดาห์ก่อนมูลค่า 70,252 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 534.02 จุด เพิ่มขึ้นร้ยอละ 0.96 จากสัปดาห์ก่อน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ ด้วยแรงหนุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากการคาดการณ์ต่อผลประกอบการงวดไตรมาส 4/60 ที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ฯ รวมถึงปัจจัยบวกที่เข้ามาเพิ่มเติม หลังสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ดัชนี SET ต้องเผชิญแรงขายทำกำไร ท่ามกลางปัจจัยกดดันประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ ส่งผลให้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะกลับมาฟื้นตัวปลายสัปดาห์ตามสถานะซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย
สำหรับสัปดาห์หน้า (29 ม.ค.- 2 ก.พ.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,820 และ 1,810 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,840 และ 1,855 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของเฟด (30-31 ม.ค.) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนธ.ค. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนม.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/60 และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค. ของประเทศในแถบยุโรป ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนและญี่ปุ่น.-สำนักข่าวไทย
