ทหารเข้าขอบคุณ ยธ.ช่วยเหลือ คดีซุกยาเสพติดในรถ

ยธ.26 ม.ค.-ทหารอากาศ เข้าขอบคุณ ก.ยุติธรรมที่ให้ความช่วยเหลือ หลังถูกตำรวจจับกุม-ตรวจค้นพบยาไอซ์กว่า 30 กรัมซุกอยู่ในรถยนต์ส่วนตัว แต่ยืนยันไม่ใช่และขอต่อสู้คดี และต่อมาศาลพิพากษายกฟ้อง ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ


นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมด้วยครอบครัวของ พ.จ.อ.อภิชาติ ขำศรี เข้าพบนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.)เพื่อขอบคุณที่กระทรวงให้ความช่วยเหลือ พ.จ.อ.อภิชาติ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและตรวจค้นพบยาไอซ์ จำนวนกว่า 30 กรัมซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ส่วนตัวของ พ.จ.อ.อภิชาติ ซึ่ง พ.จ.อ.อภิชาติ ยืนยันว่า ยาเสพติดจำนวนนี้ไม่ได้เป็นของตนและขอต่อสู้คดี ต่อมาศาลได้พิพากษายกฟ้องระบุว่า จำเลยทั้ง 4 ไม่มีความผิด  เนื่องจากมีพยานหลักฐาน ยืนยันว่า ฝ่ายจำเลยไม่ได้เป็นผู้ครอบครองยาเสพติด ตามที่ตำรวจตรวจพบในรถยนต์ส่วนตัว แต่ถูกผู้ไม่หวังดีแอบยัดยาเสพติดไว้ในรถขณะนำรถเข้าซ่อมที่อู่แห่งหนึ่งก่อนหน้านี้  และได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากจำคุกนาน 7 เดือน 6 วัน


รองปลัด ยธ. กล่าวว่า คดีขอเวลา 2 สัปดาห์ ในการพิจารณาสรุปเรื่องนี้ในทุกมิติ ทั้งเรื่องของเงินช่วยเหลือเยียวยา ,การคุ้มครองครองพยานในอนาคต,รวมทั้งสืบหาผู้กระทำผิดเกี่ยวข้องในคดีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากคดีนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคง และยาเสพติด ซึ่งการดำเนินงานจะทำตามแนวทางกฎหมายให้เรื่องจบโดยเร็วที่สุด


ทั้งนี้ อยากให้คดีนี้เป็นอีกหนึ่งคดีตัวอย่างของผู้ที่เชื่อว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมและไม่รู้กระบวนการทางกฎหมาย อยากจะให้เข้าไปติดต่อที่หน่วยงานยุติธรรมจังหวัด เพื่อจะได้ประสานหนแนวทางการช่วยเหลือก่อนที่เรื่องจะเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล 

ด้านนายษิทรา  กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องไปปรึกษากับปลัด ยธ.เรื่องการคุ้มครองพยาน ส่วนในแง่การดำเนินการหลังจากนี้จะปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายเพื่อเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องเนื่องจากที่ผ่านมามีพยาน หลักฐานชัดเจนที่มาเบิกความว่าฝ่ายผู้ไม่หวังดีมีการใส่ร้าย และทำเป็นขบวนการจนทำให้ศลเห็นข้อพิรุจและยกฟ้องผู้เสียหายทั้งหมดในศาลชั้นต้น ซึ่งคดีนี้ยังไม่ถือว่าสิ้นสุด เนื่องต้องรอว่าอัยการจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งระยะเวลาอุทธรณ์จะมีเวลา 1 เดือนนับจากวันที่ศาลตัดสิน ทางทีมทนายจะทำหนังสือขอความธรรมไม่ให้มีการอุทธรณ์ เนื่องจากเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน และหลังจากนี้จะเดินทางไปปรึกษากับอธิบดีดีเอสไอ เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือสืบสวนคดีจนทำให้พ้นผิดในชั้นต้น

พ.จ.อ.อภิชาติ กล่าว่า ขณะนี้ส่วนตัวไม่ได้ติดใจการทำหน้าที่ของตำรวจชุดจับกุม แต่สิ่งที่ต้องการอยากให้นำตัวผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพล ที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการกลั่นแกล้ง สิ่งที่กังวลคือความปลอดภัยของตนและครอบครัวจึงอยากให้มีการคุ้มครองพยาน  และส่วนตัวอยากกลับไปรับราชการทหารตามเดิม หากสิ้นสุดคดีนี้จะทำเรื่องกลับไปยังต้นสังกัดเพื่อขอกลับรับราชการดังเดิม

สำหรับคดีนี้สืบเนื่องมาจาก พ.จ.อ. อภิชาติ ขำศรี และพวก 4 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ขณะมาทำบุญที่วัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยตำรวจตรวจค้นพบยาไอซ์ จำนวนกว่า 30 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ส่วนตัวของ พ.จ.อ.อภิชาติ ตรงเบาะรถด้านคนขับ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันยาเสพติดจำนวนนี้ไม่ได้เป็นของตน

ทั้งนี้ พ.จ.อ.อภิชาติ  มีอาชีพรับราชการทหาร ต่อมาเพื่อนได้ชักชวนให้ไปทำงานเสริมเป็นการ์ดให้กับเสี่ยคนหนึ่ง แต่ก็ทำงานกับเสี่ยคนดังกล่าวเพียงประมาณ 4-5 เดือนก็ลาออก เนื่องจากมาทราบภายหลังว่า เสี่ยคนดังกล่าวทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย จึงถอนตัวออกมา หลังจากนั้นในวันที่ 23 มีนาคม 2560  เสี่ยคนดังกล่าวพร้อมพวก ก็ได้เดินทางมาตามหา พ.จ.อ.อภิชาติ ที่บ้านของพ่อในจังหวัดสิงห์บุรี แต่ไม่พบตัวพร้อมกับข่มขู่ว่าจะทำให้หมดอนาคต

หลังจากนั้นในวันที่ 9 มิถุนายน 2560 ก็เกิดเหตุนายทหารท่านหนึ่งขับรถมาชนรถยนต์ของ พ.จ.อ.อภิชาติ และนายทหารที่ชนก็อาสารับผิดชอบนำรถไปซ่อมให้ที่อู่ซ่อมรถของคนที่สนิทกัน ต่อมาวันที่ 17 มิถุนายน 2560 พ.จ.อ.อภิชาติและเพื่อน 3 คน เดินทางมาทำบุญที่วัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้มีตำรวจขอเข้าตรวจค้นรถ และพบยาไอซ์จำนวนกว่า 30 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ส่วนตัวของพ.จ.อ.อภิชาติ ด้านเบาะฝั่งคนขับ แต่ก็ได้ให้การปฎิเสธ พร้อมกับเดินหน้าสู้คดีมาโดยตลอด โดยมีทนายษิทรา เป็นทนายความในคดีนี้ให้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้น 6 เส้นทางเสี่ยง เริ่ม 21 ก.ค.นี้

ทำเนียบ 13 ก.ค.-รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้น 6 เส้นทางเสี่ยง เริ่ม 21 ก.ค.นี้ พร้อมคุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัยทุกขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลโดยกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้มีการผ่อนปรนให้รถโดยสารสองชั้นสามารถวิ่งใน 6 เส้นทางได้เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 180 วัน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ดังนี้ 1.ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า-พัทลุง 2.ทางหลวงหมายเลข 103 ช่วงแม่ยางฮ่อ-แม่ตีบ 3.ทางหลวงหมายเลข 118 ช่วงเชียงใหม่-ดอยนางแก้ว 4.ทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงบ่อโพธิ์-โคกงาม 5.ทางหลวงหมายเลข 2331 ช่วงโจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และ 6.ทางหลวงหมายเลข 1256 ช่วงปัว- อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โดยผู้ประกอบการที่ประสงค์จะเดินรถโดยสารสองชั้น ในเส้นทางผ่อนปรนดังกล่าว จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1.นำรถเข้ารับการตรวจสภาพ (Recall) ณ […]

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]