สนช.ขยายเวลาบังคับใช้ร่างกม.ลูกเลือกตั้ง ส.ส. 90 วัน

รัฐสภา 25 ม.ค. –สนช. เห็นชอบขยายเวลาบังคับใช้ร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 90 วัน ส่งผลโรดแมปเลือกตั้งขยับไปต้นปี 2562 ขณะที่เห็นชอบจัดงานมหรสพ รื่นเริงประกอบการหาเสียง และขยายเวลาเปิดคูหากาบัตร 07.00-17.00น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.30 น. วันนี้ (25ม.ค.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเริ่มลงมติรายมาตราในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร หลังใช้เวลาในการอภิปรายรายมาตรา รวมจำนวน 178 มาตรา ยาวนานร่วม 12 ชั่วโมง ซึ่งในจำนวนนั้น กรรมาธิการได้มีการแก้ไขถึง 30 มาตรา และที่ประชุม สนช. ก็ได้ลงมติเห็นชอบประเด็นสำคัญที่กรรมาธิการแก้ไข อาทิ มาตรา 2 เห็นชอบให้ขยายเวลาการบังคับใช้ร่างกฎหมายดังกล่าวหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน (เห็นชอบให้ขยายเวลา ด้วยคะแนน203 ต่อ 7 งดออกเสียง 11 /เห็นชอบ ขยายเวลา 90 วัน ด้วยคะแนน 196 ขยายเวลา 120วัน ด้วยคะแนน 12 งดออกเสียง 14 ) เพื่อให้พรรคการเมือง มีเวลาเตรียมความพร้อมก่อนเลือกตั้ง ซึ่งจะส่งผลให้โรดโมปการเลือกตั้ง ต้องขยับไปจากเดิมตามกรอบเวลาที่น่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561ไปเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือ มีนาคม 2562

นอกจากนี้ ยังมีมติเสียงข้างมาก ไม่ตัดสิทธิผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สำหรับบุคคลที่ต้องการสมัครรับราชการ พนักงานหรือลูกจ้างส่วนราชการสังกัดรัฐสภา แต่ยังคงตัดสิทธิการได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมือง ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง รวมถึงผู้บริหารท้องถิ่นบางตำแหน่งเพิ่มเติม เป็นระยะเวลา 2 ปีไว้อยู่ เว้นแต่มีเหตุอันสมควร ใน มาตรา 35 ที่กรรมาธิการฯเสียงข้างมากเพิ่ม(4) 


ขณะเดียวกัน สนช. มีมติ เห็นชอบห้ามรณรงค์โหวตโน และเห็นชอบให้พรรคการเมืองจัดแสดงมหรสพ งานรื่นเริง ประกอบการหาเสียงของได้ เพื่อจูงใจให้ประชาชนรับฟังการหาเสียงมากขึ้น แต่เพื่อป้องกันการได้เปรียบเสียเปรียบให้จำกัดวงเงินไม่เกินร้อยละ 20 ของงบหาเสียงของเขตและของพรรคตามที่ กรรมการการเลือกตั้งกำหนด ขณะที่ สนช. ลงมติเห็นชอบขยายเวลาในการเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งจากเดิม 08.00 น. ถึง 16.00 น. เป็นตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 17.00 น. จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวในวาระ 3 ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 213 งดออกเสียง4

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ ประธาน สนช. จะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พิจารณาว่ามีประเด็นใด ที่ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากมีประเด็นที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จะต้องส่งความเห็นกลับมาถึง สนช. ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างกฎหมาย เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย พิจารณาอีกครั้ง หรือหากไม่มีประเด็นใดขัดต่อรัฐธรรมนูญ ประธาน สนช. จะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรี เพื่อเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ต่อไป  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. แล้วเสร็จเวลา 23.05น. รวมใช้เวลาในการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้เกือบ 14ชั่วโมงและในวันพรุ่งนี้ (26ม.ค.) จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาตั้งแต่เวลา 10.00 น. .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]