fbpx

เตรียมสอบพยานปากสำคัญนาฬิกาหรู “พล.อ.ประวิตร”

กรุงเทพฯ 24 ม.ค.-มีความคืบหน้าประเด็นนาฬิกาหรู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่ง ป.ป.ช.ทำหนังสือขอให้ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมเป็นรอบที่ 3 พร้อมเตรียมสอบพยานปากสำคัญปากสุดท้ายสัปดาห์หน้า ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ขอถอนตัวจากการตรวจสอบ หวั่นข้อครหาไม่โปร่งใส


หลังชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ไปแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ยังมีภาพนาฬิกาและแหวนเพชรที่ปรากฏเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องถึง 25 เรือน ป.ป.ช.จึงขอให้ พล.อ.ประวิตร ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง และเตรียมเรียกพยานปากสำคัญที่ติดภารกิจต่างประเทศขณะนี้ เข้าให้ปากคำภายในสัปดาห์หน้า และได้ส่งหนังสือขอทราบข้อเท็จจริงไปยังตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาภายในประเทศ 13 แห่ง โดยคาดจะรวบรวมพยานหลักฐานได้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก่อนเสนอรายงานต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต่อไป


ขั้นตอนการพิจารณาไต่สวนของ ป.ป.ช. ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริง หากครบถ้วน ก็สามารถชี้ได้ว่า มีมูลหรือไม่ หากมีมูล ป.ป.ช.จะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน และเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลอีกครั้ง โดยขั้นตอนนี้ไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาได้ และเมื่ออนุกรรมการเห็นว่ามีมูลจึงจะเสนอให้ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ พิจารณาชี้มูลความผิดหรือไม่ต่อไป


แต่ก่อนจะดำเนินการไปถึงขั้นนั้น พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ได้ประกาศถอนตัวจากการพิจารณาคดีนาฬิกาหรู โดยอ้างเพื่อความโปร่งใส  

ในอดีตการพิจารณาคดีของ ป.ป.ช.หลายคดีล่าช้า ใช้เวลายาวนานนับ 10 ปี แต่เห็นได้ชัดว่า ป.ป.ช.ยุคใหม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์เร่งให้งานเสร็จเร็ว โดยไม่ลำดับคดีก่อน-หลัง แต่หากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หรือคดีที่สร้างความเสียหายในวงกว้างให้เร่งพิจารณา ดังจะเห็นได้จากคดีดังเช่น คดีรับจำนำข่าว ที่ ป.ป.ช.ใช้เวลาพิจารณาร่วม 2 ปี หรือคดีเงินทอนวัด ที่พิจารณาไม่ถึงปี แต่คดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร นี้ยังไม่มีใครชี้ชัดได้ว่าจะใช้เวลาเท่าใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ ส่วนปมหลอกนายกฯ ยืนยันเป็นตำรวจตัวเล็กจะไปทำกับผู้นำประเทศได้อย่างไร ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่กระทบบริหารตำรวจทั่วประเทศ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว