กรุงเทพฯ 23 ม.ค. – ภาคเอกชนประเมินแม้จะเลื่อนเลือกตั้งไม่กระทบต่อความเชื่อมั่น เพราะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้นหลายประเทศสนใจเข้ามาลงทุนไทยเพิ่มขึ้น
นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า ในภาพรวมแม้จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นภาคเอกชน เพราะเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวจากการลงทุนภาครัฐที่เริ่มก่อสร้างแล้ว ทำให้เห็นว่าความเชื่อมั่นด้านการลงทุนดีขึ้น นอกจากการลงทุน รัฐบาลยังให้ความสำคัญดูแลเศรษฐกิจฐานราก ทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ดี
สำหรับนักลงทุนต่างชาติ จากการสอบถามพบว่าหลายประเทศยังต้องการที่จะเข้ามาลงทุนในไทย อาทิ สหรัฐอเมริกา ที่ปีนี้ไทยจะครบรอบความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา 185 ปี ทำให้นักลงทุนสหรัฐเข้ามาลงทุนมากขึ้น รวมทั้งนักลงทุนจากสหภาพยุโรป (อียู) จีน และญี่ปุ่น
นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นเช่นกัน เพราะการเลื่อนเลือกตั้งมีเหตุผลและมีที่มาสามารถอธิบายได้ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาตามข้อกฎหมายและยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่การเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดการเลื่อนการเลือกตั้งนั้น คณะกรรมาธิการต้องสามารถชี้แจงถึงความเป็นมาเป็นไปให้แก่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้าใจถึงกระบวนการด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติ ยังไม่มีการสอบถามเรื่องการเลือกตั้งเข้ามา แต่ให้ความสนใจเรื่องการออก พ.ร.บ.การลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) มากกว่า
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแผนโรดแมพ แต่สิ่งที่ประเมินว่าจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งอาจเกิดจากขบวนการตามทางกฎหมาย แต่ทุกอย่างยังไม่มีการชัดเจน และเชื่อว่าเศรษฐกิจจะยังเดินหน้าต่อไปได้ โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาไทยเคยมีสถานการณ์ทางการเมืองที่แย่กว่านี้ ทำให้ครั้งนี้จะยังสามารถเดินหน้าผ่านไปได้. – สำนักข่าวไทย