นครพนม 20 ม.ค.61- ชาวบ้านยอมคืนทุ่งหนองทับหลวง 500 ไร่ ให้รัฐ หลังอ้างถูกไล่ที่ ด้านนายอำเภอเร่งตรวจสอบ พบไม่มีเอกสารสิทธิ แต่ชาวบ้านยังขอให้ช่วยเยียวยา
กรณีมีชาวบ้านในตำบลหนองแวง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ได้ออกมาขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม โดยบอกว่า มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการทวงคืนพื้นที่ทำกิน บริเวณพื้นที่ทุ่งหนองทับหลวง เนื้อที่รวมกว่า 500 ไร่ โดยอ้างว่ามีเอกสารสิทธิในการครอบครอง และทำกินมาเป็นเวลานานกว่า 40 ปี ทำให้ได้รับความเดือดร้อนกว่า 50 ราย ถูกขับไล่ที่
นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอบ้านแพง พร้อมด้วย ทหาร เจ้าพนักงานที่ดินอำเภอบ้านแพง ตำรวจ สภ.บ้านแพง นายก อบต.หนองแวง เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงเอกสารหลักฐาน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
การตรวจสอบพบว่า พื้นที่ทุ่งหนองทับหลวง เนื้อที่รวมกว่า 500 ไร่ ปัจจุบันมีชาวบ้านเข้าไปทำการเกษตร ปลูกยางพารา เลี้ยงสัตว์ ทำไร่ทำนา ประมาณ 50 ราย แต่จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน กลับไม่พบว่ามีเอกสารสิทธิการครอบครองตามกฎหมาย เพียงเข้าไปทำกินตามวิถีชาวบ้านมาตั้งแต่อดีต เป็นเวลานานกว่า 40 ปี นอกจากนี้ ยังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวตามกฎหมายถือว่าเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินให้ชุมชนใช้ร่วมกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ประชุมทำความเข้าใจ
ทั้งนี้ หลังการเจรจา ชาวบ้านยินยอมที่จะคืนที่ดังกล่าวให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ใช้ร่วมกันในชุมชน โดยหน่วยงานเกี่ยวข้องได้มีข้อตกลงจะไม่มีการดำเนินคดีสำหรับชาวบ้านที่บุกรุก ในส่วนของสิ่งปลูกสร้าง การทำการเกษตร จะได้หารือแก้ไข ไม่ให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
ขณะเดียวกัน นายปรีชา ไชยนาน ในฐานะตัวแทนชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบ ยอมรับว่า ไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ เพราะทำกินมาตั้งแต่พ่อแม่ บรรพบุรุษจนถึงลูกหลาน มีการทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ปลูกยางพารา สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว แต่หากทางภาครัฐ ยืนยันว่าเป็นที่สาธารณประโยชน์ ชาวบ้านต้องจำยอม แต่สิ่งสำคัญ หากให้ออกจากพื้นที่จะต้องเดือดร้อน ต้องการให้หน่วยงานรัฐหาทางช่วยเหลือเร่งด่วน หลังออกจากพื้นที่ และจัดหาที่ทำกินให้ และไม่อยากให้ทำลายต้นยาง สวนยาง รวมถึงพื้นที่การเกษตร ให้ชาวบ้านได้มีรายได้ ส่วนการครอบครองให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่เรื่องของความเดือดร้อนอยากให้ช่วยเหลือ
ด้าน นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอบ้านแพง ยืนยันการตรวจสอบพื้นที่ตามกฎหมาย เป็นที่สาธารณประโยชน์ ทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน ถึงแม้จะมีชาวบ้านเข้าไปทำกิน แต่ตรวจสอบแล้วไม่มีเอกสารสิทธิการครอบครอง เพื่อเป็นการรักษาทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน เจ้าหน้าที่จะต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมายในการทวงคืน ตามนโยบายรัฐบาล ผลการเจรจาชาวบ้านยินยอมให้คืน แต่ในเรื่องความเดือดร้อนที่ทำกิน รวมถึงพื้นที่ทำนา และพื้นที่การเกษตร ทางเจ้าหน้าที่จะได้หารือพิจารณาช่วยเหลือตามขั้นตอน และยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการในสิ่งที่ได้รับผลกระทบเรื่องความเป็นอยู่กับชาวบ้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ห้ามทำนา หรือคอกปศุสัตว์ต่างๆ ส่วนกรณีสวนยางพารา ให้ผู้นำชุมชน หมู่บ้าน เปิดประชาคมในแต่ละตำบลว่าจะเสนอแนวทางอย่างไร เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป.-สำนักข่าวไทย