สสส.18 ม.ค.-รองนายกรัฐมนตรี ห่วงสถานการณ์ประชากรผู้สูงอายุไทย คาด 20 ปีมากที่สุดในอาเซียน เร่งวางแผนผู้สูงอายุแห่งชาติฉบับ3 รองรับสังคมผู้สูงอายุไทยที่กำลังเติบโต เน้น 3ด้าน1.ปลอดภัย 2.สุขภาพดี และ3. มีรายได้
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดกิจกรรม เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ : โรงเรียนผู้สูงอายุและกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ พร้อมร่วมเล่นอังกะลุงเพื่อให้มีส่วนร่วมและเสริมทักษะการจดจำ ลดซึมเศร้าและความเครียด พร้อมกล่าวว่าขณะนี้ประเทศมีผู้สูงอายุ กว่า 10.9 ล้านคน ในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2564 ประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์มีผู้สูงอายุมากถึงร้อยละ 20และในอีก 20ปีข้างหน้า จะมีประชากรผู้สูงอายุมากถึง ร้อยละ 30 และถือว่ามีสัดส่วนมากที่สุดในระดับอาเซียน ดังนั้นการวางแผนรับมือจึงเป็นสิ่งสำคัญ
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งให้มีการวางผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 3 ให้แล้วเสร็จก่อนมีการบังคับในปี2564 หลังจากแผนฉบับที่ 2 ที่ใช้มาตั้งแต่ ปี2554 -2564 จะหมดลง โดยจะเน้นการวางกรอบเพื่อพัฒนาผู้สูงอายุ ใน 3 ด้าน 1.ความปลอดภัย สืบเนื่องมาจากสภาพสังคมในปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีหลอกลวงผู้สูงอายุ ทำให้ต้องสูญเงินและทรัพย์สินจึงต้องมีการปรับแผนให้ทันสมัยและเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 2.การมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี และ3 ด้านเศรษฐกิจ ผู้สูงอายุจะต้องพึ่งพาตนเองได้มีอาชีพและมีรายได้เลี้ยงตัวเอง
ทั้งนี้ แผนผู้สูงอายุดังกล่าวยัง จะต้องล้อและขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้สูงอายุ จึงจะผลักดันให้เกิดโรงเรียนผู้สูงอายุ กระจายไปทั่วประเทศอีก 2,600 แห่ง จากการมีการทดลองนำร่อง 1,100 แห่งและประสบความสำเร็จ โดยมี 9 แห่ง ถือว่าประสบความสำเร็จและเป็นต้นแบบในระดับชาติ ทั้งนี้โรงเรียนผู้สูงอายุ จะมีการสอนตั้งแต่ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สุขภาพดี .-สำนักข่าวไทย