ตลท. 18 ม.ค. – ตลาดทุนประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวร้อยละ 4.1 การเมืองภายในประเทศยังเป็นปัจจัยสำคัญกดดันตลาดหุ้น เตือนลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี่กฎหมายไทยไม่รับรองให้ชำระหนี้ตามกฎหมาย
นายสันติ กีระนันทน์ ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ภาวะการลงทุนเดือนธันวาคม 2560 ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น ปิดที่ 1,753.71 จุด ใกล้เคียงกับดัชนีปิดทำการสูงสุดในประวัติศาสตร์ จากเศรษฐกิจไทยปี 2560 ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.9 และคาดว่าปี 2561 เศรษฐกิจจะขยายตัว ร้อยละ 3.9 – 4.1 จากการฟื้นตัวของภาคการลงทุนเอกชน การลงทุนระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัวขึ้น การท่องเที่ยวเติบโตชัดเจน ค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระดับร้อนแรง ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคมีการเติบโตและตลาดหุ้นสหรัฐโตต่อเนื่อง แต่ความขัดแย้งในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและคาบสมุทรเกาหลียังเป็นปัจจัยกดดันการลงทุน
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 153.94 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 2.08 ซึ่งอยู่ในภาวะร้อนแรง โดยปัจจัยหนุนสำคัญจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ เงินทุนไหลเข้าประเทศและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศและสถานการณ์การเมืองเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน ทั้งนี้ นักลงทุนเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่องรวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมถึงเศรษฐกิจในภูมิภาคที่มีแนวโน้มการขยายตัวที่ดี ส่วนหมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดธนาคาร ขณะที่หมวดสื่อและสิ่งพิมพ์เป็นหมวดที่ไม่น่าลงทุนมากที่สุดในสายตานักลงทุน สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ 153.94 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.08 จากดัชนีเดือนที่ผ่านมา
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า การเมืองภายในประเทศจะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดหุ้นปีนี้ โดยจะเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งนักลงทุนยังกังวลว่าจะมีการประกาศวันเลือกตั้งจริงหรือไม่
ขณะที่กรณีสกุลเงินที่ใช้กันในโลกออนไลน์ หรือคริปโตเคอเรนซี่ (Crypto currency)โดยส่วนใหญ่ไม่ได้ต่อต้าน แต่อยากเตือนประชาชนที่อยากจะเข้าไปลงทุนหรือซื้อขายสินค้าด้วยสกุลเงินดังกล่าวพิจารณาความเสี่ยงและทำความเข้าใจถึงนิยามของคริปโตเคอเรนซีให้ถูกต้องก่อนที่จะเข้าไปลงทุน เนื่องจากสกุลเงินเหล่านี้รัฐบาลและธนาคารกลางในหลายประเทศ รวมทั้ง ประเทศไทยไม่รับรองความเป็นเงินตามกฎหมาย. – สำนักข่าวไทย