ครูยุค 4.0 สอนนักเรียน มีทักษะด้านสังคม ควบคู่เทคโนโลยี

สำนักข่าวไทย  13 ม.ค.-ผลสำรวจพบประชาชนส่วนใหญ่มองคุณสมบัติของครู สำคัญที่สุดคือเป็นคนดีมีคุณธรรม ส่วนสิ่งที่ต้องปรับเตรียมพร้อมเข้าสู่การศึกษายุค ไทยแลนด์ 4.0 คือการสอนนักเรียนให้มีทักษะด้านสังคม คุณธรรม ควบคู่ไปกับเทคโนโลยี  


ศูนย์สำรวจความคิดเห็น  ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ครูไทย ยุคไทยแลนด์ 4.0” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 10–12 ม.ค.2561 โดยสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น 1,253 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับครูไทย ยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยการสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างด้วยความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของนิด้าโพล ด้วยวิธีแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified  Random  Sampling) โดยแบ่งชั้นภูมิตามภูมิภาค จากนั้นในแต่ละภูมิภาคสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95.0 และมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error: S.E.) ไม่เกินร้อยละ 1.4    


จากการสำรวจเมื่อถามถึงคุณสมบัติของครูที่สำคัญที่สุด พบว่า ประชาชน ร้อยละ 26.98 ระบุเป็นคนดีมีคุณธรรม (เมตตา กรุณา ซื่อสัตย์ สุจริต) รองลงมาร้อยละ 22.82 เอาใจใส่การสอนอย่างจริงจัง เป็นแบบอย่างที่ดี ร้อยละ 21.79 มีทักษะในการสอน ถ่ายทอดความรู้ได้ดี ร้อยละ 10.93 เก่ง มีความรู้ความสามารถ พัฒนาตัวเองหาความรู้อยู่เสมอ ร้อยละ 9.02 เป็นที่ปรึกษาและรับฟังปัญหาของนักเรียนในเรื่องต่างๆ ร้อยละ 4.15 ใจดีไม่ดุ ไม่ลงโทษเด็ก และมีระเบียบวินัย ในสัดส่วนที่เท่ากัน และร้อยละ 0.16 ไม่ระบุ / ไม่แน่ใจ

สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรม/คุณสมบัติของครูไทย ที่เห็นแล้วรู้สึกประทับใจมากที่สุด พบว่าประชาชนร้อยละ 29.45 ระบุว่าความตั้งใจและเอาใจใส่ในการถ่ายทอดความรู้ ความสามารถให้แก่เด็กนักเรียน รองลงมา ร้อยละ 24.82 เป็นคนดีมีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นแบบอย่างที่ดี ร้อยละ 20.51 การคอยชี้แนะ ให้คำแนะนำ คำปรึกษา ในเรื่องต่างๆ ร้อยละ 14.20 การมีความเมตา กรุณา โอบอ้อมอารี ร้อยละ 6.15 พูดจาไพเราะอ่อนน้อมไม่ดุ ร้อยละ 4.15 เก่งมีความรู้ ความสามารถ และร้อยละ 0.72 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ


เมื่อถามถึงสิ่งที่ครูไทยต้องปรับตัวหรือเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่การศึกษาในยุค ไทยแลนด์ 4.0 พบร้อยละ 37.19 ระบุว่าสอนให้นักเรียนมีทักษะทางด้านสังคม ด้านคุณธรรม ควบคู่ไปกับเทคโนโลยี รองลงมา ร้อยละ 33.36 ปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการเรียนการสอน นอกเหนือจากการท่องจำจากตำรา ร้อยละ 32.64 ครูต้องเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ความสามารถของตัวเองให้มากขึ้น ร้อยละ 28.65 การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความทันสมัยเป็นสื่อการเรียนการสอน ร้อยละ 27.29 สอนให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และร้อยละ 1.04 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ   .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย