แม่ค้าโชว์ก้นแจงปคบ.แค่ส่งเสริมการขายไม่คิดว่าโป๊

ปคบ. 12 ม.ค.-แม่ค้าออนไลน์โชว์ทาครีมก้นขาวเข้าพบตำรวจแล้ว ยันปรึกษาทนายความก่อนโพสต์ ขอโทษสังคมแต่อยากให้เข้าใจว่าเป็นงานที่ต้องทำเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว


หลังจากโลกออนไลน์แชร์ภาพที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาดีสาธิตครีมยี่ห้อหนึ่ง โดยการดึงกางเกงลงจนเห็นก้นทั้งบั้นท้ายอย่างชัดเจน หลังจากนั้น ทาครีมลงไป โดยแม่ค้ารายดังกล่าวได้พูดโฆษณาสรรพคุณของสินค้าว่า จะทำให้ผิวขาว ทาตรงไหนก็ได้ แต่เน้นว่าตัวเองได้ทาก้นจนทำให้ก้นขาว จนมีคนไปแจ้งความ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการ  กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.ให้เอาผิดเพราะเข้าข่ายอนาจาร และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของเยาวชน


ล่าสุดวันนี้ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. เชิญนางสาวนิษฐกานต์ นันทสุธีพัฒน์เจ้าของผลิตภัณฑ์ทาก้นขาว เข้าให้ปากคำพร้อมนำผลิตภัณฑ์มาให้เจ้าหน้าที่ อย. ตรวจสอบ หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับการโฆษณาโชว์ทาครีมบริเวณก้น และตั้งข้อสังเกตว่าครีมดังกล่าวอาจมีสารอันตรายผสมอยู่ด้วยหรือไม่

นางสาวนิษฐกานต์ กล่าวว่าการโพสต์คลิปดังกล่าวเป็นการทำงานอย่างหนึ่งเพื่อให้เห็นสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ และเป็นการเพิ่มยอดขาย ซึ่งทำมากว่า 1 ปี ยืนยันผลิตภัณฑ์มี อย.ถูกต้อง ไม่ได้แอบอ้างสรรพคุณเกินจริง ซึ่งต้องใช้อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีเจตนาจะโชว์อนาจาร หรือกระทำการยั่วยวนแต่อย่างใด อีกทั้งได้ปรึกษาทนายความแล้วว่าการถ่ายคลิปโชว์ก้นดังกล่าว โป๊แต่ยังไม่เข้าข่ายอนาจาร เพราะยังไม่เห็นของลับ พร้อมขอโทษสังคม แต่ก็ขอให้สังคมเห็นใจ เพราะเป็นงานที่ต้องทำหาเลี้ยงครอบครัว

ด้านพันตำรวจเอกชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผู้กำกับการ 4 บก.ปคบ. กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายความผิดแสดงรายละเอียดผลิตภัณฑ์บนฉลากไม่ครบถ้วนและโฆษณาเกินจริง ส่วนผลิตภัณฑ์จะมีสารอันตรายหรือไม่ เจ้าหน้าที่ อย. จะส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แยกองค์ประกอบของสารเคมีในผลิตภัณฑ์ก่อน หากพบสารต้องห้ามจะแจ้งข้อหาต่อไป ส่วนข้อหานำสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ รอพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.โอนเรื่องมาให้ ปคบ. เพื่อดำเนินการต่อตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยหลังจากแจ้งข้อหา จะอนุญาตให้ประกันตัวเนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี


เภสัชกรสมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการ อย. กล่าวถึงกรณีครีมก้นขาว ว่า หลังจากเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เรื่องนี้ทาง อย.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่มีอ้างสรรพคุณทำให้จุดซ่อนเร้น (ก้น)ขาวขึ้นนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ตัวผู้ทำการรีวิว น.ส.นิษฐกานต์ นันทสุธีพัฒน์ เคยมีประวัติรีวิวสบู่ และได้ถูกดำเนินคดีในข้อหา ผิดมาตรา 41พ.ร.บ.เครื่องสำอาง 2558 ว่าด้วยเรื่องการโฆษณา ที่ถือว่ามีการใช้ข้อความที่เป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อม ให้มีการกระทำผิดกฎหมายหรือศีลธรรมหรือนำไปสู่ความเสื่อมเสียวัฒนธรรมของชาติ  โดยเป็นการกระทำผิดเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ได้รับโทษเปรียบเทียบปรับ 30,000 บาท

สำหรับครั้งนี้จากการตรวจสอบ  ผลิตภัณฑ์โลชั่นทาก้นขาว พบว่า มีเลขจดแจ้ง10-1-5722327 ในหมวดเครื่องสำอางบำรุงผิวกายในสูตรส่วน ประกอบของสาร ไวเทนนิ่งจริงและมีการแสดงสูตรของสารประกอบ จึงจะได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ได้ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ  คาดทราบผลภายใน 1 เดือน ว่ามีสารต้องห้ามหรืออันตรายหรือไม่สำหรับโทษครั้งนี้ เบื้องต้นถือว่ามีการกระทำผิดเกี่ยวกับการโฆษณาอวดอ้าง เพราะในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของสีผิว เพียงแต่สามารถโฆษณาได้ว่า จะทำให้สีผิวจางลง ซึ่งจะได้รับโทษตาม มาตรา 84 จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเนื่องจากเป็นการกระทำผิดซ้ำซ้อน โทษปรับก็ย่อมจะต้องเพิ่มมากขึ้น 

ทั้งนี้ อยากฝากเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่เกินจริง ขอให้ยึดหลักความจริงเป็นสำคัญ ธรรมชาติของครีม เรื่องสำอางทุกชนิดไม่สามารถเปลี่ยน คนผิวสีดำเป็นขาวได้ เพียงแต่ทำให้เม็ดสีของผิวหนังจางลง และการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกครั้งควรมีการตรวจสอบเลขจดแจ้ง หรือเลขทะเบียนอาหารจากเว็บไซด์ของ อย.หรือผ่านแอพพลิเคชั่น อย.สมาร์ท ได้ และควรเลือกซื้อสินค้าจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทีมค้นหาจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางหาร่างแรงงานพลัดตกหลุม

23 พ.ค. – ทีมกู้ภัยพบสัญญาณดี คล้ายร่างคนงานที่ตกหลุมเจาะเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีส้ม อยู่ที่ความลึก 11.5 เมตร แต่เกิดดินลั่นก่อน ทำให้ไม่สามารถงมต่อได้ จึงขึ้นมาปรับแผนกันใหม่ พร้อมจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดทาง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมค้นหาร่างแรงงานที่พลัดตกหลุมลึก 19 เมตร โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จุดธูป ขอขมาตามความเชื่อ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้เจอร่างของนายศราวุฒิ คนงานซึ่งถูกดินสไลด์ทับจนพลัดตกลงไปภายในหลุมเจาะเสาเข็มลึก 19 เมตร ของโครงการก่อสร้างสถานีหลานหลวง (OR06) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  เยื้องซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยล่าสุด ทีมค้นหา USAR และกู้ภัยได้ทำการตรวจสอบบางจุด พบว่าสัญญาณคล้ายร่างกายมนุษย์ ที่ระดับความลึก 11.5 เมตร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำการพิสูจน์ทราบ โดยหากตรวจสอบว่า วัตถุหรือสิ่งที่พบคือร่างของมนุษย์จริงเจ้าหน้าที่จะวางแผนทำการเคลื่อนย้าย มีรายงานว่าทีมกู้ภัยที่ห้อยสลิงลงไป ได้หย่อนตัวลงไปในโคลน ความลึกระดับคอแล้ว จากนั้นได้ใช้มือคลำลงไปลักษณะเหมือนโดนเสื้อ หรือ ผ้า คล้ายกับร่างมนุษย์ แต่จังหวะนั้นแผ่นชีทพลายลั่น […]

ศาลพิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาท คดีแตงโม

นนทบุรี 23 พ.ค. – ศาลนนทบุรี พิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต คดีแตงโม ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.292/1566 (คดีหมายเลขแดง อ.769/2568) ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยที่ 1-4 คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์หลัก โดยมีนางภนิดา เป็นโจทก์ร่วม ฟ้องจำเลยในความผิดฐานประมาท, แจ้งความเท็จ และทำลายหลักฐาน กรณีแตงโมตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หรือกว่า 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในชั้นสอบสวน และชั้นศาล จำเลยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้เป็นการต่อสู้กันในข้อหาประมาท ซึ่งทราบว่าอัยการที่เป็นโจทก์หลักได้บรรยายฟ้องถึงพฤติกรรมของจำเลยทั้ง 4 […]

เด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม

กระบี่ 23 พ.ค.- อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามสั่งเด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามในคำสั่งให้ นางนันทิชา เกิดแก้ว นายอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ ช่วยราชการ ที่วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป หลังจากช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “บองหลาไฟ” บุกทลายบ่อนกลางสวนปาล์ม พื้นที่ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จับกุมนักพนันได้กว่า 70 คน เบื้องต้นพบว่าบ่อนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 12 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนนักพนันทั้งหมด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศาลแพ่งจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว .-สำนักข่าวไทย

จับตาศาลชี้ชะตา “คดีแตงโม” จำเลยมาตามนัดพร้อมเพรียง

นนทบุรี 23 พ.ค.- ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา” ขณะที่จำเลยต่างเดินทางมาศาลอย่างพร้อมเพรียง. -สำนักข่าวไทย