ผู้เสียหายเดินหน้าร้อง ปคบ.เอาผิดดารา-บริษัทดัง หลอกขายฝัน

กรุงเทพฯ 10 ต.ค. – ทีมทนายมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ หลังถูกขายฝันให้ร่วมลงทุนธุรกิจขายตรง ด้าน “ทนายเดชา” พาผู้เสียหายอีกกลุ่มแจ้งความ พร้อมพุ่งเป้าไปที่แชร์ลูกโซ่


มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม พาผู้ได้รับผลกระทบจากการเข้าร่วมธุรกิจบริษัทขายตรงชื่อดัง ซึ่งผู้เสียหายที่มาวันนี้มี 20 คน แต่คนที่อยู่ในกลุ่มตอนนี้มีประมาณ 500 คน บางส่วนไม่สะดวกเดินทางมาเพราะอยู่ต่างจังหวัด รวมถึงติดธุระส่วนตัว

หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ผู้เสียหายทุกคนจะเห็นธุรกิจของบริษัทนี้ในลักษณะเดียวกัน คือเริ่มเห็นจากโฆษณาทางทีวี โซเชียล และการยิงแอดผ่านเฟซบุ๊ก ขณะที่ส่วนตัวในช่วงหลังโควิดต้องการหาอาชีพเสริม หารายได้มาเลี้ยงครอบครัว จึงตัดสินใจลงเรียน ซึ่งจะเป็นการเรียนแบบออนไลน์ มีค่าใช้จ่าย 98 บาท หรือ 99 บาท


2 วันแรกเป็นการเรียนการสอนเรื่องธุรกิจบริษัท วันที่ 3 มีแม่ทีมมาสอน หากใครสนใจทำธุรกิจก็จะขายฝันว่าเป็นการสร้างรายได้เพิ่ม โดยที่ไม่ต้องสตอกของ ไม่ต้องมีสินค้าในมือ มีระบบช่วยเหลือหลังบ้านทั้งหมด

จากนั้นจะเสนอให้เรียนคอร์สที่สูงขึ้นในราคา 2,500 บาท ซึ่งคอร์สนี้สามารถเรียนรู้ระบบของบริษัทได้มากกว่าเดิม มีโค้ชนัดมาเรียนที่โรงเรียน มีครูพี่เลี้ยง แม่ทีมมาช่วยประกบ และหากสนใจลงทุนจะมีคอร์สเรียนที่สูงขึ้นในราคา 25,000 บาท ในคอร์สนี้จะถูกเกลี้ยกล่อมว่าหากมาทำธุรกิจจะมีรายได้เพิ่ม ชีวิตจะเปลี่ยนไป ใครสนใจมีค่าใช้จ่ายในการลงทุน 250,000 บาท

ทั้งนี้ ส่วนตัวยอมรับตอนแรกไม่มั่นใจที่จะจ่าย 250,000 บาท แต่ผ่านไปสักพักมีโอกาสร่วมงานประจำเดือนของบริษัท ทั้งอบรมและประชุม มีดารา นักแสดงชื่อดังมาพูด สร้างความเชื่อมั่น ทำให้รู้สึกว่าบริษัทมีระบบรองรับทุกอย่าง ระบบหลังบ้านก็ดี การตลาดก็ดี สินค้าก็ดี แต่ดารา นักแสดงชื่อดัง จะพบเจอได้ในเฉพาะงานอีเวนต์ ซึ่งจะมีค่าบัตรเข้าร่วมงาน 1,500 บาท และเท่าที่เห็นจะมี 3 คน ซึ่งไม่ใช่เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ แต่เป็นถึงระดับผู้บริหารที่คนจะเรียกกันว่า “บอส”


อย่างไรก็ตาม สุดท้ายมาเอะใจเพราะหลังจากเรียนไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าไม่ได้สอนให้ขายของ แต่สอนให้หาคนมากระจายสินค้า ด้วยการยิงแอดโฆษณา หาดีลเลอร์มาลงทุนแบบตัวเอง ตอนนั้นแม้ไม่มีเงินในการยิงแอดโฆษณา แม่ทีมมีการแนะนำให้เอารถไปรีไฟแนนซ์ นำเงินมายิงแอด เพื่อลูกค้า หานักเรียนเข้ามาเรียน และยังแนะนำให้โทรชวนเพื่อน จนตอนนี้ต้องเป็นหนี้บัตรเครดิต เงินที่ใช้ไปลงทุนก็ไม่เคยเห็นผล

ส่วนอีกรายยอมรับนำเงินเก็บ 206,000 บาท ไปลงทุนจนเกือบคิดสั้นฆ่าตัวตาย เพราะตกงาน อยากสร้างธุรกิจ รวมถึงได้ยินสโลแกน “ขยันผิดที่อีก 10 ปี ก็ไม่รวย” รู้สึกว่าเป็นโอกาสในการหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว เพราะเริ่มจากลงทุนแค่ 2,500 บาท แต่พอจ่ายไปแล้วกลับกลายเป็นเหมือนสโลแกนขายฝัน สุดท้ายลงทุนไป 206,000 บาท ทุกวันนี้ยังต้องใช้หนี้อยู่ แถมครอบครัวแตกแยก เพราะไม่มีใครเข้าใจ จนซึมเศร้า

ขณะเดียวกันรองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ได้โชว์เอกสารข้อตกลงที่บริษัททำไว้กับผู้เสียหาย โดยอ้างเป็นค่าบำรุงขวัญ จ่ายให้ผู้เสียหายบางส่วนไปเซ็นเอกสารปิดปาก พร้อมย้ำว่าคดีนี้เป็นอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้ ฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน

ด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์, ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง, นายแทนคุณ จิตต์อิสระ พาผู้เสียหายที่จากการลงทุนกับบริษัทดังกล่าวรวมกว่า 10 ราย มาแจ้งความร้องทุกข์กับ ปคบ. เช่นกัน โดยนายแทนคุณ ระบุถึงพฤติการณ์ของบริษัทว่าให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์ ทำให้มีผู้หลงเชื่อลงทุน เพราะเปิดคอร์สในราคา 97 บาท ก่อนขยับเป็นขั้นบันไดไปจนถึง 250,000 บาท อ้างให้เป็นดีลเลอร์ สร้างทีม รับผลประโยชน์เพิ่ม ก่อนโน้มน้าวให้ยิงแอดโฆษณาหารายได้เฉลี่ย 1 คน เสียหายไปกว่า 500,000 บาท ซึ่งข้อมูลล่าสุดมีผู้เสียหายมากกว่า 500 คน

ด้าน ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง ระบุว่า มีผู้เสียหายรายหนึ่งมาเล่าหัฟังว่าไปลงทุนกับบริษัทเพราะตกงาน รูดบัตรเครดิตไปกว่า 400,000 บาท แต่สินค้าที่ได้รับมากลับขายไม่ได้ จนเกิดความเครียด ประกอบกับตอนนั้นป่วยและท้องอยู่ ทำให้คิดสั้นกระโดดน้ำหวังฆ่าตัวตาย แต่มีพลเมืองดีช่วยไว้ได้ทัน

นอกจากนี้ผู้เสียหายบางส่วนยังให้ข้อมูลว่าดาราที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้มี 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือผู้ได้รับมอบอำนาจในการบริหารโดยตรง มีอยู่ 5-6 คน กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มพรีเซ็นเตอร์ที่บริษัทจ้างมาสร้างความน่าเชื่อถือ มีหลายคน และกลุ่มสุดท้าย กลุ่มที่มีความสัมพันธ์และถูกเชิญเข้าไปร่วมอีเวนต์ของบริษัท ผู้เสียหายยืนยันว่าดารากลุ่มแรกเข้ามาบริหารจริง

ขณะที่ผู้เสียหายรายนี้เล่าว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนนั้นตัดสินใจลงทุนเพราะอยากประสบความสำเร็จ เพราะบริษัทชักชวนและกล่าวอ้างถึงผู้ที่ประสบความสำเร็จ โดยมีวลีหลักเด็ดของบอสใหญ่ที่บอกว่า “ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย” เป็นตัวจุดประกาย เมื่อเข้าร่วมได้ชักชวนคนสนิทและคนในครอบครัวมาร่วมลงทุน แต่สินค้ากลับขายไม่ออก เพราะสินค้าไม่ได้คุณภาพ คนไม่กลับมาซื้อซ้ำ ทำให้เสียหายหลักล้าน เมื่อถามหาวิธีขายของกลับไปยังบริษัทกลับไม่ได้คำตอบ ทำให้ต้องเสียความสัมพันธ์กับคนสนิทและครอบครัว พร้อมย้ำว่าธุรกิจนี้ไม่ได้เน้นขายของ แต่เน้นหาคนให้ร่วมลงทุน

ทนายเดชา ย้ำอีกครั้งกรณีมีดาราแถลงข่าวยืนยันว่าไม่มีส่วนในการตัดสินใจของบริษัท โดยได้คุยกับพนักงานสอบสวนแล้ว พนักงานสอบสวนบอกว่าการดำเนินคดีไม่ได้ดูแค่เพียงคำพูด แต่ต้องดูพฤติกรรมและหลักฐาน ซึ่งหากดูจากพฤติการณ์มีโอกาสสูงที่ดาราหลายคนถูกดำเนินคดี แต่ขอไม่ระบุว่าเป็นใคร

คดีนี้ทนาย 2 คน พาผู้เสียหายมาแจ้งความ เพื่อให้ตรวจสอบบริษัทว่าเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน, แชร์ลูกโซ่, โฆษณาเกินความเป็นจริงหรือไม่ รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรง หรือไม่

ส่วนความผิดอื่นๆ ที่น่าจะตามมาอาจเป็นเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ซึ่งไม่ต้องมาที่ ปคบ. ก็ได้ ให้แจ้งความที่ท้องที่ที่พักอาศัย เนื่องจากรักษาการ ผบ.ตร. ย้ำแล้วว่าจะทำให้ครอบคลุม หรือหากติดขัดอย่างไร ทนายเดชาบอกว่าติดต่อมาได้ทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผล

นนทบุรี 15 ก.ค. – จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังเข้าจับกุม สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147, ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน, รับของโจร ภายในบ้านพักหมู่บ้านหรู ย่านนนทบุรี หลังพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอนเงินเข้าบัญชีสีกากอล์ฟ 3.8 แสนบาท ซึ่งบัญชีโอนเข้าเป็นเงินบัญชีของวัดชูจิตธรรมาราม ขณะนี้ควบคุมตัวสีกากอล์ฟ เข้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ทำการสอบปากคำด้วยตัวเอง ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมขยายผลไปยังผู้ที่มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ โดยจะมีการตรวจสอบคลิปทุกคลิป […]

ยอมสึกแล้ว “เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร” เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ

15 ก.ค. – ยอมสึกแล้ว! พระเทพวัชรสิทธิเมธี เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ หลังมีแชตหลุดคุยหวานสีกา แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด ขณะที่เช้านี้ไร้เงาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ล่าสุดมีหนังสือลาออกของพระเทพวัชรสิทธิเมธี จากการเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรและเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ส่วนสีกากอล์ฟ มีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป.เพิ่มอีก กรณีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร หรือเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ยืนยันไม่สึก เพราะไม่เคยมีสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ แต่ไม่ทันข้ามวันมีแชตหลุดคุยหวานสีกากอล์ฟ แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด วันนี้นักข่าวไปที่วัด ปรากฏ “พระล่องหน” ส่วนสีกากอล์ฟมีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป. เพิ่มเติม เสียงการให้สัมภาษณ์ของ พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ที่เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ออกมายืนยันยังทำกิจของสงฆ์ต่อเนื่อง รอพระผู้ใหญ่และตำรวจเรียกไปให้ปากคำ เพราะมั่นใจว่าสามารถตอบได้ทุกคำถามที่โยงไปถึงสีกากอล์ฟ มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่คิดสึกจากความเป็นพระ ปรากฏว่าช่วงบ่ายๆ มีแชตหลุดของพระเทพวัชรสิทธิเมธีหลุดออกมา ในแชตเป็นการคุยโต้ตอบกับสีกากอล์ฟ และท่านสวมใส่เสื้อยืด ไม่ใช่จีวรพระ โดยการพูดคุยเริ่มจากบอกว่า “ทำอะไรก็คิดถึงตลอด” แล้วตามมาด้วยข้อความว่า “ภาพนี้อย่าให้หลุดนะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง” ส่วนสีกากอล์ฟก็ตอบไปคำเดียวว่า “ค่ะ” เช้านี้ไร้เงา “พระเทพวัชรสิทธิเมธี”วันนี้ (15 ก.ค.) นักข่าวไปหาพระเทพวัชรสิทธิเมธี […]

ศาลออกหมายจับ “ลูกก๊กอาน” พร้อมพวกรวม 6 คน ลุยค้น 7 จุด

15 ก.ค.- ศาลออกหมายจับ “ลูกสาว-ลูกชาย” ก๊กอาน พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อนลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมยื่นศาลออกหมายจับเครือข่ายก๊กอานเพิ่มอีก 6 คน ประกอบด้วย นางจุฬี หรือเชอร์รี่ นางสาวภูเฌหลิน นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายก๊กอาน และพวกรวม 6 คน ในฐานความผิดการมีส่วนร่วมในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่าบุคคลตามหมายจับมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย รวมถึงมีการขอศาลออกหมายค้น 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลังศาลออกหมาย นอกจากนี้ ทางกรมปกครองอยู่ระหว่างตรวจสอบความผิดปกติบัตรประชาชนคนไทยของเชอรี่ หลังตำรวจตรวจสอบพบมีข้อมูลน่าสงสัยไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ – สำนักข่าวไทย