ฟันครีมก้นขาว ผิดโฆษณาเกินจริง-ละเมิดศีลธรรม

สธ.12 ม.ค.-อย.ห่วงคนหลงเชื่อครีมก้นขาว ตรวจสอบพบคนรีวิวเคยได้รับผิด ฐานโฆษณาเกินจริง จากโฆษณาสบู่กระชับอวัยวะมาแล้ว  ย้ำกระทำผิดซ้ำสองโทษเพิ่ม ส่งผลิตภัณฑ์ให้กรมวิทย์ ตรวจสอบ หาสารต้องห้าม 


เภสัชกรสมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการ อย. กล่าวถึงกรณีครีมก้นขาว ว่า หลังจากเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เรื่องนี้ทาง อย.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่มีอ้างสรรพคุณทำให้จุดซ่อนเร้น (ก้น)ขาวขึ้นนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ตัวผู้ทำการรีวิว น.ส.นิษฐกานต์ นันทสุธีพัฒน์ เคยมีประวัติรีวิวสบู่ และได้ถูกดำเนินคดีในข้อหา ผิดมาตรา 41พ.ร.บ.เครื่องสำอาง 2558 ว่าด้วยเรื่องการโฆษณา ที่ถือว่ามีการใช้ข้อความที่เป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อม ให้มีการกระทำผิดกฎหมายหรือศีลธรรมหรือนำไปสู่ความเสื่อมเสียวัฒนธรรมของชาติ  โดยเป็นการกระทำผิดเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ได้รับโทษเปรียบเทียบปรับ 30,000 บาท


สำหรับครั้งนี้จากการตรวจสอบ  ผลิตภัณฑ์โลชั่นทาก้นขาว พบว่า มีเลขจดแจ้ง10-1-5722327 ในหมวดเครื่องสำอางบำรุงผิวกายในสูตรส่วน ประกอบของสาร ไวเทนนิ่งจริงและมีการแสดงสูตรของสารประกอบ จึงจะได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ได้ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ 

คาดทราบผลภายใน 1 เดือน ว่ามีสารต้องห้ามหรืออันตรายหรือไม่  


สำหรับโทษครั้งนี้ เบื้องต้นถือว่ามีการกระทำผิดเกี่ยวกับการโฆษณาอวดอ้าง เพราะในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของสีผิว  เพียงแต่สามารถโฆษณาได้ว่า จะทำให้สีผิวจางลง ซึ่งจะได้รับโทษตาม มาตรา 84 จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  และเนื่องจากเป็นการกระทำผิดซ้ำซ้อน โทษปรับก็ย่อมจะต้องเพิ่มมากขึ้น 

ทั้งนี้ อยากฝากเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่เกินจริง ขอให้ยึดหลักความจริงเป็นสำคัญ ธรรมชาติของครีม เรื่องสำอางทุกชนิดไม่สามารถเปลี่ยน คนผิวสีดำเป็นขาวได้ เพียงแต่ทำให้เม็ดสีของผิวหนังจางลง และการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกครั้งควรมีการตรวจสอบเลขจดแจ้ง หรือเลขทะเบียนอาหารจากเว็บไซด์ของ อย.หรือผ่านแอพพลิเคชั่น อย.สมาร์ท ได้  และควรเลือกซื้อสินค้าจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว