บีโอไอตั้งเป้ายอดขอส่งเสริมลงทุนปีนี้ 720,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ  12 ม.ค. – บีโอไอตั้งเป้ายอดขอส่งเสริมลงทุนปีนี้ 720,000 ล้านบาท เพิ่มร้อยละ 12 จากเป้าปี 60 ส่วนผลงานปี 60 มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมูลค่า 641,978 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 600,000 ล้านบาท


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และมอบนโยบายส่งเสริมการลงทุนปี 2561 โดยนายสมคิด ระบุว่า ยอดยื่นโครงการขอรับส่งเสริมการลงทุนปี 2560 เกินเป้าหมายร้อยละ 22 ในจำนวนนี้เป็นโครงการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษหรืออีอีซีถึงร้อยละ 46  สำหรับนโยบายส่งเสริมการลงทุนปีนี้ได้มอบหมายให้บีโอไอจัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่เน้นอุตสาหกรรมการเกษตรมากขึ้นทั้งการเพิ่มผลิตภาพในการผลิตการแปรรูปอาหารแห่งอนาคต ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรในประเทศไทยรวมถึงไบโอเทคโนโลยี และส่งเสริมการลงทุนในอุุตสาหกรรมบริการท่องเที่ยวครบวงจร ส่งเสริมการลงทุนในสถาบันการศึกษาเพื่อผลิตบุคลากรที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลและอื่น ๆ เพื่อรองรับแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งในสถาบันการศึกษาและภายในบริษัทเอง 

นอกจากนี้ บีโอไอจะจัดงานที่ Opportunity Thailand วันที่ 19 มีนาคม 2561 โดยปีนี้จัดภายใต้แนวคิด Thailand taking off เพื่อแสดงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจของภูมิภาค รวมถึงให้นักลงทุนทราบถึงความคืบหน้าและผลจากการดำเนินงานตามนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล และเข้าใจจุดเปลี่ยนของช่วงของเศรษฐกิจประเทศไทย


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงาน Thailand taking off ถือเป็นงานที่แสดงถึงจุดเปลี่ยนสำคัญการลงทุนของประเทศไทยและเป็นจุดเริ่มการลงทุนรอบใหม่ หลังจากปีที่ผ่านมามีการปลดล็อคหลายเรื่องทั้งกฎหมายและเรื่องอื่น ๆ รวมถึงการทำสมาร์ทวีซ่า การจัดงานครั้งนี้จัดช่วงเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น โดยธนาคารโลกประเมินว่าเศรษฐกิจโลกขยายตัวดีสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค มั่นใจว่าการจัดทำร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. … หรือ ร่าง พ.ร.บ.อีอีซี จะผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก่อนเดือนมีนาคมนี้ รวมถึงทีโออาร์ของรถไฟความเร็วสูงก็จะจัดทำเสร็จช่วงนี้เช่นกันขณะที่การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาจะทำ market sounding ครั้งแรก ทั้งนี้ การกระชับความสัมพันธ์เป็นการปลดล็อคทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรป ถือเป็นช่วงที่เหมาะสมที่นักลงทุนจะสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันนักลงทุนที่เข้ามาในประเทศไทยเป็นนักลงทุนจากจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีเป็นสำคัญ

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการบีโอไอ เปิดเผยว่า ปี 2561 บีโอไอตั้งเป้าหมายยอดขอรับส่งเสริมการลงทุน 720,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายปี 2560 ที่ตั้งไว้ 600,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12 นับเป็นการตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้นแล้วจากที่ปกติจะตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นร้อยละ 5-10 สำหรับผลการดำเนินงานนปี 2560 มียอดนักลงทุนยื่นโครงการขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมรวม 1,456 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 641,978 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 600,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการยื่นขอลงทุนในพื้นที่อีอีซี 388 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 296,889 ล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด 641,978 ล้านบาท เป็นการยื่นขอรับส่งเสริมใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นมูลค่า 392,141 ล้านบาท แบ่งเป็น 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายเดิม 241,055 ล้านบาท และอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่หรือ new s Curve 151,087 ล้านบาท ส่วนปี 2561 มีแผนส่งเสริมการลงทุนเพื่อสานต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจประเทศไทย 4.0 และผลักดันให้เกิดการลงทุนในพื้นที่อีอีซี

เลขาธิการบีโอไอ กล่าวเพิ่มเติมว่า บีโอไอยังคงมีแผนเดินสายชักจูงการลงทุนจากต่างประเทศและกำหนดประเทศเป้าหมาย เช่น ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ ยุโรป เป็นต้น เพื่อเผยแพร่นโยบายและรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอและรัฐบาล ในการเดินสายชักจูงการลงทุน ประกอบด้วยคณะชักจูงการลงทุนที่นำโดยนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีรวมไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง และคณะชักจูงการลงทุนซึ่งนำโดยผู้บริหารบีโอไอกว่า 30 ครั้ง ในปีนี้บีโอไอจะร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนในพื้นที่อีอีซี อีกไม่น้อยกว่า 15 ครั้ง โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการชักจูงการลงทุนในกลุ่มประเทศที่มีการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถิติขอรับส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ หรือ FDI ปี 2560 พบว่าอันดับ 1 โครงการลงทุนจากญี่ปุ่น มูลค่า 133,002 ล้านบาท อันดับ 2 สิงคโปร์ มูลค่า 40,366 ล้านบาท อันดับ 3 จีน 27,514 ล้านบาท อันดับ 4 สหรัฐอเมริกา 20,022 ล้านบาท และอันดับ 5 เนเธอร์แลนด์ 15,842 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.