แนะมหาวิทยาลัยเร่งปรับตัวก่อนไร้นักศึกษา

กทม. 6 ม.ค.-มหาวิทยาลัยในประเทศไทยเริ่มปรับตัว ให้เข้ากับสถานการณ์ โดยพบว่าการศึกษาด้านนิเทศศาสตร์ซบเซา มีคนเลือกเรียนน้อยลง เพราะกลัวตกงาน บางมหาวิทยาลัยต้องยุบเลิกหลักสูตร เพราะคนไม่นิยม

ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาหลายแห่ง ออกมาระบุว่า เตรียมทบทวนยุบเลิกหลักสูตรบางหลักสูตรที่มีแนวโน้มขาลง อาทิ คณะนิเทศศาสตร์ เพราะไม่เป็นที่นิยมและกลัวจบการศึกษาออกมาแล้วตกงาน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) คณะหรือสาขาวิชาที่จะเป็นที่นิยมในปี 2561 คือจบแล้วมีงานทำ มีรายได้ที่มั่งคง ได้แก่  สาขาอุตสาหกรรมต่างๆ วิศวกรรมเคมี วิศวกรรมไฟฟ้า โดยสาขาที่โดดเด่นที่สุด คือ วิศวกรรมโยธา เพราะรองรับเมกะโปรเจ็กต์ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน

รวมทั้ง คณะครุศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ ที่ยังได้รับความนิยมเช่นเดียวกับคณะนิติศาสตร์ ส่วนสาขาวิชาที่เน้นไปในด้านธุรกิจบริการ อย่างสาขาธุรกิจการบิน ยังเป็นที่ต้องการของตลาดการศึกษาในปี 2561 อยู่ ขณะที่สาขาด้านการบัญชี การเงิน รวมถึงวิทยาศาสตร์สุขภาพ ยังเป็นที่นิยมเรียน เนื่องจากคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และสังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ยิ่งทำให้ธุรกิจบริการด้านนี้โตขึ้นในอนาคต


ส่วนนิเทศศาสตร์ในปีนี้นั้นซบเซา เพราะเด็กๆ กลัวตกงาน อย่างมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นายฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดี ระบุว่า เตรียมทบทวนยุบเลิกหลักสูตรที่ไม่เป็นที่นิยม 33 สาขาวิชารวมทั้งนิเทศศาสตร์ด้วย

ปัจจุบัน ประเทศไทย มีสถาบันอุดมศึกษาทั่วทั้งหมด 157 แห่ง ก่อนหน้านี้เคยมีมากถึงเกือบ 200 แห่ง ทั้งที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ  มหาวิทยาลัยและสถาบันในกำกับของรัฐ มหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล สถาบันอาชีวศึกษา มหาวิทยาลัยและสถาบันเอกชน รวมทั้งสถาบันอุดมศึกษาด้านการทหารและตำรวจ และสถาบันอุดมศึกษานอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

สำนักข่าวไทย สำรวจข้อมูลพบว่า มีสถาบันอุดมศึกษาดำเนินการไม่ได้มาตรฐานและปิดดำเนินการไปกว่า 10 แห่ง อาทิ มหาวิทยาลัยโยนก มหาวิทยาลัยอีสาน วิทยาลัยบัณฑิตสกลนนคร วิทยาลัยรามาอโยธยา เป็นต้น ส่วนสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเดิมที่มี 3 เขต ได้แยกเป็นนิติบุคคล 3 แห่งในปี 2529 คือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีในปัจจุบัน


อย่างไรก็ตาม แนวโน้มสถาบันการศึกษาในอนาคต จะมีการควบรวมระหว่างสถาบัน อย่างมหาวิทยาลัยราชภัฏในแต่ละจังหวัด จะควบรวมกับสถาบันการศึกษาในจังหวัดนั้น จัดตั้งเป็นสถาบันใหม่ รวมไปถึงการยกวิทยฐานะเดิมขึ้นเป็นสถาบันอุดมศึกษาใหม่ รวมทั้ง 2 รูปแบบจำนวน 16 แห่ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ เช่น มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ เป็นการปรับโครงการสถาบันการพลศึกษาเดิมและแยกออกเป็นวิทยาเขต ส่วนที่จะตั้งขึ้นใหม่ มี 3 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยนานาชาติแม่สอด จ.ตาก ด้วยเนื้อหารองรับเศรษฐกิจพิเศษ มหาวิทยาลัยพ่อหลวง หรือ มหาวิทยาลัยประจวบคีรีขันธ์ และสถาบันนครขอนแก่นของเอกชน เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง