“สมคิด” เร่งพัฒนาถนนเชื่อมระบบรางหนุนอีอีซี

กรมทางหลวง 5 ม.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจเร่งกรมทางหลวง พัฒนาเส้นทางถนนพร้อมเชื่อมระบบราง หนุนพื้นที่อีอีซี 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มอบนโยบายผู้บริหารกรมทางหลวง ว่า ใกล้เข้าสู่ช่วงการจัดสรรงบประมาณ ปี 2562 ของรัฐบาล จึงอยากให้กระทรวงคมนาคมทบทวนโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ จะต้องเน้นการเชื่อมโยงด้านหมวดคมนาคมทั้งทางถนน รถไฟเข้าด้วยกันให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงให้ความสำคัญกับการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานขนส่งที่สนับสนุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) การเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน  รวมทั้งเชื่อมต่อการเดินทางรูปแบบต่าง ๆ ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ  

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จะต้องนำโครงการภายในแอ๊กชั่นแพลนที่อยู่ในแผนปี 2563-2565 บางโครงการมาดำเนินงานก่อน เช่น โครงการก่อสร้างถนนในพื้นที่อีอีซี  เพื่อแก้ปัญหาจราจรและสร้างระบบโลจิสติกส์ภายในโครงการให้สมบูรณ์ โดยคาดว่าปี 2562-2565 จะใช้งบประมาณก่อสร้างถนนภายในอีอีซีประมาณ 48,000 ล้านบาท  รวมถึงกำลังศึกษาหาจุดเชื่อมต่อระหว่างโครงการรถไฟทางคู่ 2 เส้นทางที่อยู่ในแผนพัฒนาระบบคมนาคมภาคตะวันออก หรือ East-West Corridor  บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม และเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เป็นการเชื่อมต่อเส้นทางหลักที่จะเพิ่มศักยภาพด้านโลจิสติกส์ ทั้งการขนส่งสินค้าและการเดินทาง เชื่อมต่อไปยังลาวและเวียดนามได้ โดยขณะนี้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ศึกษาความเป็นไปได้ ทั้งนี้ แผนการจัดสรรงบประมาณ ปี 2562 จะต้องเสร็จภายใน 2 เดือนหลังจากนี้  


นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจได้หารือกับผู้รับเหมาเอกชน โดยทำความเข้าใจทิศทางการทำงานของรัฐบาลจากนี้ไป 3-4 ปีข้างหน้าจะเกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง ขอให้ผู้รับเหมาก่อสร้างทำงานอย่างซื่อสัตย์ ไม่ทิ้งงาน เน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญ เบิกจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว และให้โอกาสทั้งรายเล็ก กลาง ใหญ่ เข้ามามีส่วนร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานของไทย พร้อมทั้งขอความร่วมมือภาคเอกชนนำยางพาราทำถนนมากขึ้น โดยคาดว่าปี 2561 จะเพิ่มปริมาณการใช้น้ำยางดิบมากกว่า 40,000 ตัน  

ด้านผู้รับเหมาเอกชนกังวลปัญหาแรงงานที่ขาดแคลน ขอให้รัฐจัดหาแรงงานเข้าระบบและขอจัดตั้งสภาก่อสร้างไทย เพื่อดูแลและตรวจสอบการดำเนินงานของผู้รับเหมาไทย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างและปัญหาจากการคอร์รัปชั่น รวมทั้งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างภาพรวมได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง