คุมเข้มความปลอดภัยเดินทางวันหยุดยาว-ปีใหม่

 


 

กรุงเทพฯ 10 ธ.ค.-กระทรวงคมนาคมคุมเข้มความปลอดภัยรองรับการเดินทางช่วงวันหยุดยาว-เทศกาลปีใหม่ เดินสายตรวจทั้งผู้ขับขี่-สภาพรถ หากพบผิดกฏหมายซ้ำซาก เพิกถอนใบอนุญาต 


นายนพรัตน์ การุณยวนิช รองผู้จัดการใหญ่ บริษัทขนส่ง จำกัด(บขส.) เปิดเผยถึงการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาว 3 วันนี้ (10-12 ธันวาคม 2559) เชื่อว่าประชาชนยังเดินทางไม่มากนักเนื่องจากเป็นวันหยุดที่ใกล้เทศกาลปีใหม่ และส่วนใหญ่เตรียมตัวเดินช่วงปีใหม่มากกว่า อย่างไรก็ตาม ช่วง3 วันนี้ บขส ยังใช้จำนวนเที่ยวรถที่ให้บริการปกติโดยมีเที่ยวรถวิ่งวันละ 7670 เที่ยว ต่อวัน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุดวันละ 150,000 คน จากปกติเฉลี่ยวันละ 120,000 คนเท่านั้น ส่วนเทศกาลปีใหม่ 2560 ที่กำลังมาถึง บขส. ได้เพิ่มเที่ยวรถวิ่งอีก กว่า 600 เที่ยวต่อวัน  โดยกำหนดเป้าหมายที่จะรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึงวันละ 180,000 คน เชื่อว่าจะเพียงพอต่อการใช้บริการ

“การดูแลความปลอดภัยของการเดินทางได้คุมเข้มทั้งการดูแลคนขับ ให้พร้อมปฎิบัติหน้าที่  การตรวจสอบระบบจีพีเอส เพื่อใช้ติดตามรถทั้งในส่วนของรถ บขส. และรถร่วมบริการทุกคัน” นายนพรัตน์กล่าว

ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่าในการเตรียมพร้อมรองรับการเดินทางในเทศกาลปีใหม่ 2560เตรียมแผนทั้งเพิ่มขบวนรถและความปลอดภัย  โดยจะมีการให้บริการขบวนรถไฟฟรีเพิ่มขึ้นอีกวันละ 10 ขบวน ในเส้นทาง อุบลราชธานี อุดรธานี และศิลาอาสน์ ในช่วงวันที่ 30-31ธันวาคม และวันที่ 2-4 มกราคม 2560รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 700-800คนต่อขบวน รวมถึงการพ่วงโบกี้ในรถด่วนและรถเร็วทุกเส้นทางอีก 120 โบกี้ ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นในเส้นทางสายเหนือและสายอีสานโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดตรัง จังหวัดนครศรีธรรมราชและหาดใหญ่ ตลอดจนพิจารณาเปิดเดินรถเพิ่มเติมในเส้นทางสายใต้อีกด้วย ทั้งนี้คาดว่าจะต้องรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 120,000 คนต่อวันในช่วงเทศกาลปีใหม่ จากปัจจุบันยอดผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่80,000-90,000 คนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นจากเวลาปกติอีกวันละ30,000 คน


S__2506989

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่าว่า ช่วงการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2559 – 4 มกราคม 2560  ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานดูแลจัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอเพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง และด้านความปลอดภัยได้มอบหมายสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งออกตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะควบคู่กับการตรวจความพร้อมตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถก่อนออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสาร รวมถึงที่จุดจอด/จุดพักรถ และจุดตรวจความพร้อม 12 จังหวัดบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ ได้แก่ กำแพงเพชร พิษณุโลก ลำปาง นครสวรรค์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ขอนแก่น ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา และระยอง โดยให้พนักงานขับรถลงมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง

นอกจากนี้ ได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ออกตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะด้วยกล้องเลเซอร์ในเส้นทางสายหลักเข้า–ออกกรุงเทพมหานคร และติดตามรถโดยสารสาธารณะทุกคันผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ตลอดช่วงเทศกาลเพื่อติดตามพฤติกรรมการขับรถ การใช้ความเร็วภายใต้กฎหมายกำหนด  และผู้โดยสารหากสามารถร้องเรียนการบริหารที่โทรศัพท์สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

“หากตรวจสอบพบผู้ขับรถฝ่าฝืนกระทำผิดกฎหมายหรือมีการกระทำผิดซ้ำซาก จะดำเนินมาตรการลงโทษเป็นลำดับขั้นตั้งแต่เปรียบเทียบปรับจนถึงพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ ผู้ประกอบการขนส่งที่ฝ่าฝืนไม่กำชับพนักงานขับรถปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง กรมการขนส่งทางบกลงโทษสูงสุดถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าว-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญ “พระบรมรูป ร.7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 23 ส.ค.- อัญเชิญ “พระบรมรูปรัชกาลที่ 7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา ใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า สูง 7.7 เมตร ด้าน “วันนอร์” คาดแล้วเสร็จ พ.ค.69 เตรียมหารือ สนว. จัดพระราชพิธีเปิดฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมข้าราชการรัฐสภา ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าอยู่หัว องค์ใหม่ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ และเครื่องประกอบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นประดิษฐาน หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่า การก่อสร้างและอัญเชิญพระบรมรูป จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2569 โดยจะมีการหารือกับสำนักพระราชวัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปต่อไป ซึ่งวันนี้ต้องทำให้เกิดความสง่างาม รวมทั้งปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าว มีการติดตามรับผิดชอบจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานกลาง […]

ดีเปรสชันทะเลจีนใต้ทวีกำลังเป็น “พายุโซนร้อนคาจิกิ”

กรุงเทพฯ​ 23 ส.ค.​ – กรม​อุตุฯ ​เผยเช้า​นี้​ “ดีเปรสชัน” ทะเลจีนใต้ตอ​นบน ​ทวีกำลังเป็น “พายุโซนร้อนคาจิกิ” แล้ว​ คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วง 25–26 ส.ค.นี้ ส่งผลกระทบไทยตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ส.ค.) เป็นต้นไป นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน​ “คาจิกิ” มีแนวโน้มเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนประมาณ​วันที่​ 25​ -​26​ สิงหาคม​ ก่อนเข้าสู่สปปลาวและภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ไทย​ หลังจาก​ขึ้นฝั่ง​ที่​เวียดนาม​ คาดว่า​พายุ​โซน​ร้อน​จะอ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ภาคตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ไทย​จะเป็​นหย่อม​ความกดอากาศ​ต่ำ​ แต่ยังคงส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่ โดยเส้นทางพายุใกล้เคียงกับพายุ “วิภา” ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” ร่วมกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24–27 สิงหาคม 2568 โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ครอบคลุมหลายภาค ได้แก่​ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน​ ภาคเหนือ​ ภาคกลางภาคตะวันออก​ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้ คาดว่า​ […]

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]