แม่ลูก4 หมันหลุด ท้อง4เดือน ร้องขอเยียวยา

อุดรธานี 22 ธ.ค.-แม่ลูก 4 ร้องทุกข์ศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี หลังทำหมันที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี แต่ยังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 5 ด้าน ผอ.ศูนย์ฯ เผยหมันหลุดเกิดได้ 1 ใน 500 พร้อมเยียวยา


น.ส.วราภรณ์ สุระเทวี อายุ 28 ปี และนายพิจิตร อุเบกขานนท์ อายุ 32 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางรณิดา เหลืองธิติสกุล ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี ว่าหลังคลอดลูกคนที่ 4 เมื่อปี 2556 ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ได้ให้หมอทำหมันคุมกำเนิดถาวร แต่เมื่อผ่านไป 4 ปี ปรากฏว่า น.ส.วราภรณ์ กลับตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน จึงมาร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ทางโรงพยาบาลฯที่ทำหมันให้มารับผิดชอบ


 น.ส.วราภรณ์ เล่าว่า เมื่ออายุ 17 ปี ตนเคยแต่งงานกับสามีคนแรก ปี 2548 มีบุตรฝาแฝดผู้หญิง ต่อมาได้แยกทางกัน ตนเป็นคนเลี้ยงลูก ต่อมาได้แต่งงานใหม่กับนายพิจิตร มีลูกอีก 2 คน ปี 55 คลอดลูกคนที่ 3 เป็นผู้หญิงอายุ 6 ขวบ  ปี 56 คลอดลูกคนที่ 4 เป็นผู้ชาย ใช้สิทธิบัตรทอง โดยการผ่าตัดคลอดทั้งหมด และได้ทำหมันทันทีหลังคลอดลูกคนสุดท้าย ซึ่งตนมีอาชีพรับจ้างขายลูกชิ้นร้านลูกชิ้นใหญ่ในจังหวัด ได้ค่าจ้างวันละ 200 บาท  ส่วนสามีรับขนมโดนัทไปขายที่ตลาดบ้านสามพร้าว รายได้รวมกันแล้ววันละ 500 บาท แทบจะไม่พอกิน โชคดีที่สามีเก่ามารับลูกแฝดไปเลี้ยงได้ประมาณ 1 ปีแล้ว 

 น.ส.วราภรณ์ฯ เล่าอีกว่า จนวันที่ 20 ธันวาคม ตนจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ผลออกมาว่าตั้งครรภ์ ตนก็แจ้งหมอว่าทำหมันแล้วจะตั้งครรภ์ได้หรือ หมอจึงนำไปอัลตาร์ซาวด์เพื่อความแน่ใจ พบการเต้นหัวใจของทารก อายุครรภ์ 18 สัปดาห์ มีแขน ขา ตอนนั้นตนถึงกับช๊อก และหมอได้เสนอให้ตนตัดสินใจว่า หากไม่ต้องการทารก เพราะไม่สามารถเลี้ยงดูได้ หมอสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ พอได้สติจึงบอกหมอขอกลับไปปรึกษาสามีก่อน เมื่อถึงบ้านก็เล่าให้สามีฟัง สามีแปลกใจที่ตนตั้งครรภ์ได้อีก แต่ไม่สบายใจที่หมอยื่นข้อเสนอยุติการตั้งครรภ์ หรือ ทำแท้ง เกรงว่าตนจะได้รับอันตราย จึงพากันไปโรงพักลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน   

“ตอนนั้นหมอบอกตนว่า อย่าไปบอกสื่อมวลชน หรือนักข่าว แต่ตอนนั้นตนไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงว่ามีปัญหาแล้ว หลังจากไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ตนได้โทรไปปรึกษา ขอความช่วยเหลือที่ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี สนง. สปสช. สธ.อุดรธานี แต่หลายที่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือ หรือแก้ไขปัญหาให้ได้ จึงมาขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ดำรงธรรม เพราะตนไม่อยากทำแท้ง ตนทำไม่ลง เมื่อลูกอยากมาเกิดด้วย ก็จะเก็บเขาไว้ แต่อยากให้ทางโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ออกมารับผิดชอบ ช่วยเหลือเยียวยา เพราะการเลี้ยงเด็กเพิ่มอีก 1 คน เป็นภาระที่หนักมากของครอบครัว”


 ด้าน นายพิจิตรฯ สามี น.ส.วราภรณ์ฯ เล่าเพิ่มเติมให้ฟังว่า หลังทราบว่าภรรยาตั้งครรภ์อีกก็คิดหนัก เพราะคงต้องทำงานหนักหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่จะไม่ยอมให้ทำแท้งเด็ดขาด เมื่อลูกอยากมาเกิด ก็จะให้เขาเกิดและเลี้ยงดูกัน แต่อยากให้ทางโรงพยาบาลฯออกมารับผิดชอบ ช่วยเหลือ สิ่งที่เกิดขึ้น ทราบว่าเป็นแพทย์ฝึกหัด เป็นคนทำคลอดและทำหมันลูกคนที่ 4 แต่ถึงจะเป็นแพทย์จริง หรือแพทย์ฝึกหัด ทางโรงพยาบาลต้องออกมารับผิดชอบที่สิ่งเกิดขึ้น จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ อีกทั้งเกรงว่าภรรยาจะได้รับอันตรายระหว่างตั้งครรภ์ เพราะภรรยาผ่าคลอดมาแล้ว 3 ครั้ง ท้องนี้เกรงว่ามดลูกจะแตก ตอนนี้ทางนายจ้างให้ภรรยาให้หยุดทำงาน เพราะเกรงจะเป็นอันตราย ตนมีรายได้คนเดียว ครอบครัวคงต้องเดือดร้อน

ส่วนนางรณิดา เหลืองฐิติสกุล ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี เผยว่า กรณีหมันหลุดเคยเกิดมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเด็กคลอดออกมาแล้ว แต่ผู้ร้องใช้สิทธิบัตรประกันสังคม ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ม.41 แต่เจรจาจนได้รับการเยียวยาแล้ว 1 แสนบาท ครั้งนีผู้ร้องใช้สิทธิบัตรทอง จึงเข้ามาตรา 41 การควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ จ่ายเงินช่วยเหลือ กรณีผู้รับบริการหมัน แล้วตั้งครรภ์ เป็นความเสียหายที่เข้าข่ายมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือ โดยการทำหมันแม้จะดำเนินการตามมาตรฐานแล้วแต่ก็อาจตั้งครรภ์ได้ (จากสถิติพบว่าเกิดขึ้นได้ ประมาณ 1/500 ราย)

ทางศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี ได้ประสานงานไปยัง หน่วยงานที่รับผิดชอบโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี แล้ว ทราบว่าคณะกรรมการได้รับเรื่องไว้แล้ว และจะออกไปตรวจเยี่ยมบ้านผู้ร้อง เพื่อนำมาพิจารณาว่า จะต้องจ่ายเงินช่วยเหลือ  1-2 แสนบาท ซึ่งศูนย์ดำรงธรรม จะได้นัดคณะกรรมการพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือ พร้อม ผอ.โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และ น.ส.วราภรณ์ และนายพิจิตร ผู้ร้อง มารับเงินช่วยเหลือที่ควรจะได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย