รมว.อุตฯ สั่ง สมอ.กำหนดมาตรฐานสินค้าเอสเอ็มอี

กรุงเทพฯ 22 ธ.ค. – รมว.อุตฯ สั่ง สมอ.สร้างมาตรฐานสินค้าเอสเอ็มอี เพื่อสร้างความมั่นใจผู้บริโภค แต่มาตรฐานการผลิตจะไม่เข้มข้นเท่ากับผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีมาตรฐานสินค้าสูงกว่า


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษ  “นโยบายขับเคลื่อน  SME ไทย 2018” ว่า รัฐบาลจะเดินหน้าส่งเสริมและสร้างความแข็งแกร่งผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ปัจจุบันมีอยู่ 3.3 ล้านรายอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายครอบคลุมทุกกลุ่ม แต่จะเน้นกลุ่มฐานราก เช่น วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นคนตัวเล็กมากขึ้น โดยมีสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นหัวหอกทำงานบูรณาการร่วมกับภาครัฐและเอกชนในรูปแบบประชารัฐที่จะเข้าไปช่วยเหลือพัฒนาเอสเอ็มอีและคนตัวเล็ก 

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จัดทำมาตรฐานสินค้าสำหรับเอสเอ็มอี ซึ่งมาตรฐานการผลิตสินค้าจะไม่เข้มข้นเท่ากับผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่แต่เป็นมาตรฐานผลิตภัณฑที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ทั้งนี้ การมีมาตรฐานการผลิตสินค้าจำเป็นอย่างยิ่งหากต้องการผลิตสินค้าและส่งขายตลาดต่างประเทศ  นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นให้ความรู้ทางด้านการบริหารการเงินการจัดทำบัญชีที่ถูกต้อง 


นายอุตตม กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2561 กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะผลักดันมาตรการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเน้นผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการโอทอป ซึ่งเป็นคนตัวเล็กมากขึ้น โดยเน้นเกษตรแปรรูป ผลิตภัณฑ์ชุมชนทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและบริการ  โดยมาตรการช่วยเหลือมีทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงิน เช่น โครงการอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่ดูแลตั้งแต่การผลิต การตลาดและการบรรจุภัณฑ์ โดยเป็นการทำงานแบบบูรณาการระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) สสว. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงพาณิชย์ช่วยดูแลด้านการตลาด ตลาดประชารัฐ ดังนั้น หลังปีใหม่จะเห็นการขับเคลื่อนเอสเอ็มอีที่เน้นกลุ่มฐานรากอย่างเต็มที่

ด้านมาตรการทางการเงินที่มีธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนรวมกันประมาณ 200,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อผ่านธนาคารพาณิชย์ซึ่งคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้วประมาณ 80,000 ล้านบาท รวมกับสินเชื่อที่ธนาคารพาณิชย์จะปล่อยเพิ่มด้วยวงเงินของธนาคารเองอีกกว่า 100,000 ล้านบาท

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สสว. กล่าวว่า นอกเหนือจากโครงการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ สสว.ดำเนินการแล้ว ขอเชิญชวนให้คนไทยทั้งประเทศร่วมอุดหนุนสินค้าและผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยต้องการให้ปี 2561 เป็นปีรณรงค์ อุดหนุนสินค้าและบริการของเอสเอ็มอี สำหรับปี 2560 สสว.จัดกิจกรรมให้ความรู้ส่งเสริมกลยุทธ์ติดอาวุธทางธุรกิจให้เอสเอ็มอี ภายใต้โครงการประชารัฐเพื่อวิสาหกิจชุมชนและโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโตระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม 2560 ในพื้นที่ 6 ภูมิภาค รวม 40 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย Micro SME และวิสาหกิจชุมชนที่กระจายอยู่ทั่วประเทศรวม 11,085  ราย นอกจากนี้ ยังสามารถส่งต่อผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบส่งเสริมอื่นเพื่อต่อยอดการพัฒนา 10 ด้าน มีผู้ประกอบการสนใจขอรับคำปรึกษาและการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง 33,349 ราย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

พ่อขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม

พ่อของหนุ่มขอนแก่น วัย 35 ปี หนึ่งในผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม ขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิต ส่วนหนุ่มช่างประปา วัย 32 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม เผาแล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ สะอื้นไห้หน้าเมรุ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น