อสมท ตั้งเป้ารายได้ 3,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 21 ธ.ค. – อสมท เปิดแผนธุรกิจ 5 ปี มุ่งขยายขีดความสามารถธุรกิจทีวีดิจิทัล ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ “หุ้นส่วนกับสังคมไทย” ตั้งเป้ารายได้แตะ 3,000 ล้านบาท ยืนยันยังไม่มีแผนปรับลดพนักงาน


นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจ 5 ปี (2561-2565) ว่า อสมท กำหนดวิสัยทัศน์ “องค์กรคุณภาพที่เป็นหุ้นส่วนกับสังคมไทยและก้าวไกลไปด้วยกัน” ทั้งนี้ อสมท เติบโตเคียงคู่สังคมไทยและเป็นเสมือนครอบครัวคนไทยมาโดยตลอด วิสัยทัศน์ใหม่ นอกจากจะเป็นบริษัทมหาชนที่มีรัฐถือหุ้นหลักแล้วยังพร้อมเป็นสื่อกลางในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ด้วยการคัดสรรเนื้อหาที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการนำเสนอเนื้อหาผ่านทุกช่องทางให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา นำไปสู่การสร้างผลตอบแทนให้กับสังคมไทยและผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน 


นายเขมทัตต์ กล่าวว่า จากนี้ไปจะเร่งดำเนินแผนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ 2 ด้านสำคัญ ได้แก่  ด้านทรัพยากรมนุษย์ด้วยการปรับโครงสร้างองค์กร ลดหน่วยงานบางหน่วยที่ซ้ำซ้อน และวางกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยปรับเวลาการทำงานให้มีความยืดหยุ่น เพื่อลดค่าใช้จ่ายล่วงเวลา รวมถึงควบคุมการใช้จ่ายแต่ละหน่วยงานในองค์กรภายใต้งบประมาณที่กำหนด พร้อมเปิดโอกาสให้บุคลากรรุ่นใหม่มีโอกาสเติบโตมากขึ้น 

ส่วนด้านพัฒนาธุรกิจ จะเร่งรัดสร้างมูลค่าเพิ่มจากที่ดินที่มีอยู่ทั้ง 3 แปลง โดยเฉพาะที่ดินย่านรัชดาเนื้อที่กว่า 50 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อได้ เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้า สายสีส้มในพื้นที่ใกล้เคียง คาดว่าจะเป็นการร่วมมือในรูปแบบภาครัฐ-ภาคเอกชน (PPP) ซึ่งมีกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศติดต่อเข้ามา 2-3 ราย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้หารายได้ระยะสั้น โดยเปิดให้บริษัทกิจการร่วมค้าในเครือของบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มเช่าพื้นที่ 10 ไร่ เพื่อทำที่พักคนงานก่อสร้างรถไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 3 ปี ส่วนงานด้านธุรกิจเทคโนโลยีจะสร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจ E-commerce และหารายได้จากกลุ่มธุรกิจ New Media รวมถึงส่งเสริมการร่วมทุน หรือร่วมค้ากับพันธมิตรด้าน E-commerce, OTT และ Telecom สำหรับธุรกิจวิทยุ ยังมีพื้นฐานที่แข็งแรง โดยอยู่ในระหว่างวางแผนขยายงาน social media ของ MCOT Radio Network 62 สถานีทั่วประเทศ ให้เป็น multi-platform มากขึ้น ซึ่งจะให้ทุกกลุ่มเป้าหมายรับฟังได้ทุกที่ทุกเวลา และรับฟังคอนเทนท์ย้อนหลัง


สำหรับกลุ่มคอนเทนท์ที่จะนำมาออกอากาศปี 2561 ทางช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 จะเป็นคอนเทนท์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ชมกลุ่มเป้าหมาย แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคอนเทนท์ซีรีส์จีนและเกาหลี นำซีรีส์จีนยอดฮิตอย่างนางพญางูขาว และ The King’s Women มาออกอากาศ โดยจุดแข็งของคอนเทนท์จีนอยู่ที่ต้นทุนต่ำกว่าเกาหลี แต่ได้โปรดักชั่นระดับฮอลลีวูด อีกทั้งมีโอกาสได้กลุ่มธุรกิจอื่นตามมา  กลุ่มคอนเทนท์การ์ตูนยอดนิยมอย่างเบย์เบลดและหน้ากากเสือ กลุ่มคอนเทนท์วาไรตี้ ได้แก่ รายการเกมซ่าท้ากึ๋น ซีซั่นใหม่, รายการ Reebox Crossfit Games ล่าสุดยังได้พิธีกรมากความสามารถอย่าง “ตุ๊ก-ญาณี จงวิสุทธิ์” มาร่วมผลิตรายการ “ตุ๊กตามสั่ง” ออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 10.30 น. กลุ่มสารคดี  ได้แก่ รายการ China On The Road รายการ Under Water Planet และรายการ The Most Dangerous Way To School และรายการข่าวและสารคดีเชิงข่าว แนวใหม่ เช่น การขยายเวลาออกรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ ให้มากขึ้น 

ส่วนช่อง MCOT Family ช่อง 14 หลังจากปรับรูปแบบการหารายได้ที่ไม่พึ่งพิงรายได้จากการขายโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยนำช่วงเวลาโฆษณาบางส่วนมาออกอากาศรายการเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่มสินค้าเอสเอ็มอีตามนโยบายรัฐบาล พบว่ารายได้ MCOT Family ช่อง 14 เติบโตร้อยละ 34 อย่างไรก็ตาม MCOT Family ช่อง 14 จะยังคงมุ่งเน้นคอนเทนท์สาระความรู้เพื่อเด็ก เยาวชน และครอบครัว และยังคงยึดถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของ กสทช.อย่างเคร่งครัด

“จากการดำเนินการตามกลยุทธ์ดังกล่าว คาดว่าจะทำให้ อสมท มีรายได้เติบโตขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 5-10 หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,966  ล้านบาท ในปี 2561” นายเขมทัตต์ กล่าว

ส่วนแผนการปรับลดบุคลากรนั้น นายเขมทัตต์ ยืนยันว่า อสมท ไม่มีแผนปรับลดบุคลากรในขณะนี้ โดยยังสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายบุคลากรให้สอดคล้องกับต้นทุนการดำเนินธุรกิจได้ อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นต้องปรับลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร การปรับลดพนักงานจะพิจารณาเป็นทางเลือกสุดท้าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]