อสมท จัดประชุมสดทางไกล แพทย์ไทยจีนร่วมถอดรหัส “โควิด-19”

สำนักข่าวไทย15 เม.ย.- บมจ.อสมท ร่วมกับ CMG หน่วยงานสื่อสารมวล ชนของรัฐบาลจีน และแพทยสภา เตรียมจัดประชุมสดทางไกลแพทย์ไทย-จีน ถอดบทรหัสแก้ไขโควิด-19 ของอู่ฮั่น ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ 


วันนี้ (15 เม.ย.) นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท และทีมงาน อสมท จัดประชุมหารือผ่านระบบ Zoom conference ร่วมกับนางเลี่ยว ลี่ ผู้อำนวยการ China Media Group , Asia pacific หน่วยงานสื่อสารมวลชนของรัฐบาลจีนในการประสานทีมแพทย์จีนผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดโควิด-19  ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศไทย โดยแพทยสภา 


การดำเนินการดังกล่าวเป็นการแชร์แบ่งปัน บทเรียนจากประสบการณ์จริงของแพทย์พยาบาลที่เกี่ยวข้องในประเทศจีน โดยเฉพาะจากนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ จะครอบคลุมสาธารณสุข 3 ด้านคือผู้เชี่ยวชาญระบาดวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม และผู้เชี่ยวชาญด้าน ICU โดยจะเล่าประสบการณ์และการแก้วิกฤตการณ์ของโควิด-19 ในแง่มุมต่างๆ ให้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของไทย 5-6 คน

นายเขมทัตต์ กล่าวว่า การประชุมจะดำเนินการจัดที่ห้องประชุม อสมท โดยขณะนี้กำหนดวันที่ 23 เมษายน 2563  เวลา 14.00-16.00 น เทียบกับเวลาปักกิ่ง 17.00-19.00 น.ผ่านระบบ Zoom system ซึ่งทาง CMG มีความปราถนาดีต่อประเทศไทย ที่จะคัดกรองเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันแพทย์แห่งรัฐบาลกลาง สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ประสบกับเหตุการณ์หน้างานมาแชร์ประสบการณ์ โดยจะสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ และจะบันทึกเทป ทำเป็นรายการภาษาไทยและภาษาจีนเพื่อมาออก อากาศใน 2 ประเทศโดยเฉพาะ ให้คนไทยได้เข้าใจและเรียนรู้ทำความเข้าใจ ในเวลาต่อมาอีกด้วย


สำหรับรายชื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากแพทยสภา พร้อมคำถามล่วงหน้า ที่จะหารือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของจีน คาดว่าจะเรียบร้อยภายในสัปดาห์นี้ โดยหัวหน้าทีมแพทย์ไทย คือ ศ.นพ.ประสิทธ์ วัฒนาภา จะเป็นผู้นำการหารือกับแพทย์จีนดังกล่าว 

ทั้งนี้ นับเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างไทย-จีน ให้แน่นแฟ้นขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง หลังจากที่ประเทศไทย โดย อสมท และเครือข่ายคนไทย ทำคลิปวิดีโอให้กำลังใจคนจีนในอู่ฮั่น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมที่ผ่านมา และต่อมาสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มอบอุปกรณ์การแพทย์ให้กับประเทศไทยมาแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]