กองบัญชาการกองทัพไทย 15 ธ.ค.- ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง การเสียชีวิตของ นตท.ภคพงศ์ หรือ น้องเมย และคณะกรรมการทั้ง 5 สรุปผล โดยยืนยันว่าน้องเมย ไม่ได้เสียชีวิตด้วยการถูกทำร้ายร่างกาย แต่เกิดจากหัวใจล้มเหลว และพบว่าก่อนเสียชีวิตได้ตกบันไดและที่ซี่โครงหักเพราะการทำซีพีอาร์ช่วยชีวิตต่อเนื่องตามที่ผู้ปกครองร้องขอรวม 4 ชั่วโมง
พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับทราบผลการสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหาร ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย จึงอนุญาตให้ พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ นตท.ภคพงศ์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพร้อมคณะกรรมการสอบสวนอีกทั้ง 5 คน จากทั้งหมด 11 คนเพื่อชี้แจงให้กับสังคมทราบ
โดย พล.อ.อ.ชวรัตน์ แถลงรายละเอียดของการสอบสวนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการสอบปากคำพยาน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย นักเรียนเตรียมทหาร, แพทย์, ผู้ที่อยู่ในโรงเรียนเตรียมทหาร, อาจารย์ประจำชั้นและครูพละ, ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม ที่ นตท.ภคพงศ์ หรือ น้องเมย เสียชีวิต มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า นตท.ภคพงศ์ เป็นลมต่อหน้าเพื่อน จากนั้นพบว่าเสียหลักตกบันไดด้วยตนเอง เพราะความเร่งรีบ และที่ซี่โครงหัก เพราะจากการทำซีพีอาร์
รวมถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่ นตท.ภคพงศ์ ตกบันได เพราะเหตุเร่งรีบลงบันได้กลับกองพัน ซึ่งได้มีการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และผู้ปกครองยังได้พาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเอกชน พร้อมสรุปว่าการเสียชีวิต ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดสั่งลงโทษหรือทำร้าย และจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ไม่พบความผิดปกติ โดยการเสียชีวิต เกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เป็นผลตรงตามที่ระบุไว้แล้วในครั้งแรก
สำหรับอาการไฮเปอร์เวนติเลชัน เป็นอาการที่พบบ่อยใน นตท.ภคพงศ์ คืออาการจากความเครียด เกร็ง หายใจถี่เร็ว เป็นอาการที่ทำให้หมดสติและเสียความรู้สึก ช่วงหลังกองแพทย์พบอาการแบบนี้ค่อนข่างบ่อย จึงแก้อาการด้วยการใช้ถุงครอบบริเวณปาก เพื่อลดการเข้าของออกซิเจนและให้มีคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มมากขึ้น
ส่วนประเด็นน้องเมยเป็นโรคหัวใจอยู่เดิมหรือไม่นั้น ทางคณะกรรมการฯ ไม่ทราบและแพทย์ไม่พบ หากเป็นก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร จะไม่สามารถเป็นนักเรียนเตรียมทหารได้ และหากเกิดในช่วงระหว่างการเรียน หากตรวจพบก็ต้องพ้นสภาพ ทั้งนี้การเกิดโรคหัวใจล้มเหลวสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนแม้แต่ในนักกีฬาหลายคนที่แข็งแรง
สำหรับประเด็นเรื่องความกดดันที่ นตท.ภคพงศ์ เคยพูดคุยกับผู้ปกครอง ทางคณะกรรมการสอบสวนฯ ไม่ทราบรายละเอียด ส่วนที่โรงเรียนมีหลักสูตรตามาตรฐาน ไม่เครียด และได้ปรับปรุงการทำงานอยู่เรื่อยๆ ส่วนการธำรงวินัย หรือการให้นักเรียนผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษได้นั้น เป็นเรื่องการปกครองภายในโรงเรียน กรณีที่น้องเมย อ้างเรื่องถูกซ่อมในห้องซาวน่าเป็นเพียงการลงโทษในห้องพักขนาดเล็กและไม่น่าจะส่งผลต่อการเสียชีวิตได้
การแถลงข่าวผลการเสียชีวิตของน้องเมยวันนี้ ทางกองทัพไม่ได้เชิญญาติมาร่วมรับฟัง เพราะถือว่าไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่ต้องการให้มีการโต้เถียงไปมา แต่จะเชิญมารับฟังในวันที่ 18 ธันวาคมนี้แทน.-สำนักข่าวไทย