ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.60 สูงสุดใน 33 เดือน

 กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน 2560 ปรับตัวดีขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี 9 เดือน หรือ 33 เดือน  


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน 2560 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.60 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4  โดยปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 76.7 เป็น 78.0  ในเดือนพฤศิกายน 2560 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 33 เดือนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2558 เป็นต้นมา ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขณะนี้เป็นขาปรับขึ้น และผลจากมาตรการช้อปช่วยชาติ ซึ่งประเมินว่า ช่วยให้เกิดการใช้จ่ายประมาณ 15,000 ล้านบาทในระบบเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายตามโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนละ 5,000 ล้านบาท  รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล จากปัจจัยเหล่านี้็จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ มีโอกาสขยายตัวได้ร้อยละ 4 ได้ ส่วนการส่งออกปีนี้คาดว่า จะขยายตัวได้ร้อยละ 8.5 

ส่วนเศรษกิจไทยในปีหน้า 2561 คาดว่า มีโอกาสโตต่อ โดยคาดว่า มีโอกาสขยายตัวในระดับร้อยละ 4.5 ได้ ประเมินว่า จะมีเม็ดเงินจากหลายภาคส่วนเข้ามาเติมในระบบเศรษฐกิจไทยประมาณ 500,000-600,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังผลจากการการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งภาพรวมแล้ว พบว่า ครม.ชุุดใหม่เน้นการทำงานลงสู่ฐานรากลงพื้นที่ตามเงิน ก็จะช่วยให้เม็ดเงินจะหมุนออกไปสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็วขึ้น และจากการประสานงานท้องที่ตามโครงการประชารัฐ ส่วนการส่งออกปีหน้าคาดว่า จะโตร้อยละ 5


สำหรับตัวจักรสำคัญในการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยในปีหน้า 500,000-600,000 ล้านบาท ได้แก่  การท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจากเอเชียจะเดินทางเข้ามาไทยมากขึั้น ทั้งในรูปแบบทัวร์และเข้ามาท่องเที่ยวด้วยตัวเองและจ่ายเงินมากขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวปีหน้า  ทางศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอกาารค้าไทย คาดว่า จะมีจำนวนรวม 36-37 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 2-3 ล้านคน ช่วยสร้างรายได้อีกประมาณ100,000 ล้านบาท ด้านการส่งออกปีหน้า คาดว่า จะขยายตัวเกินร้อยละ 5 ช่วยให้มีเม็ดเงินเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 100,000 ล้านบาท ด้านการลงทุนของภาครัฐโดยเฉพาะการลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ อีอีซี ที่ภาครัฐน่าจะมีการจัดซื้อ จัดจ้าง ช่วยให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 200,000-300,000 ล้านบาท งบประมาณค้างท่อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)  จะมีการใช้จ่ายออกมา 100,000-150,000 ล้านบาท การลงทุนเอกชนที่จะเพิ่มเติมเข้ามา และเม็ดเงินจากการใช้จ่ายตามมาตรการสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 1 เติมเงินระบบเศรษฐกิจ 60,000 ล้านบาท หากมาตรการโครงการสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 2 ออกมาเพิ่มเติม ด้านการจ้างงาน ฝึกอบรม การช่วยให้เข้าถึงสินเชื่้อ คาดว่าส่วนนี้ จะเติมเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 30,000-50,000 ล้านบาท บวกกับผลจากการเลือกตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับประเทศหากเกิดขึ้น จะข่วยให้เกิดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอีก  50,000-80,000 ล้านบาท -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

สงกรานต์เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำทั้งเมือง

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ล้านนา วันนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสันวัฒนธรรมและเหล่าสาวงาม ขณะที่การเล่นน้ำสงกรานต์ก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งเมือง โดยเฉพาะรอบคูเมือง และอุโมงค์น้ำแห่งแสงสีเสียง ที่ถนนท่าแพ ยิ่งค่ำยิ่งคึกคัก

สงกรานต์ภูเก็ตคึกคัก คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 8,200 ล้าน

บรรยากาศสงกรานต์ที่ จ.ภูเก็ต ปีนี้สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวสนุกกันสุดเหวี่ยงตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา และคาดว่าบรรยากาศแห่งความสนุกสนานนี้จะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปแบบข้ามวันข้ามคืน