นนทบุรี 6 ธ.ค. – พาณิชย์เตรียมประชุมอนุกรรมการปาล์มน้ำมันเร่งรัดการส่งออก พร้อมขอความร่วมมือ กฟผ.-กระทรวงพลังงานรับซื้อเพื่อผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มคงเหลือที่มีปริมาณมากขณะนี้ โดยคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาดประชุมเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 และมีมติให้เร่งส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อรักษาสมดุลปริมาณน้ำมันปาล์มในประเทศโดยแต่งตั้งคณะทำงานสนับสนุนการส่งออกน้ำมันปาล์มมีหน้าที่กำหนดมาตรการเร่งหาตลาดในการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มทั้งตลาดเดิมและตลาดใหม่เพิ่มขึ้น รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือกรมธุรกิจพลังงานประสานผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ให้สำรองไบโอดีเซล (B100) เพิ่มขึ้น ซึ่งสำรองตามกฎหมาย (ร้อยละ 1) อยู่ที่ 14.339 ล้านลิตร เป็น 120 ล้านลิตร
นอกจากนี้ สัปดาห์นี้กระทรวงพาณิชย์จะประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด เพื่อเร่งรัดการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ และจะเชิญผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อพิจารณาอุปสงค์และอุปทานผลผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ปริมาณสตอกน้ำมันปาล์ม และปริมาณความเหมาะสมของการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ ซึ่งจะส่งผลทำให้ปริมาณสตอกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือในตลาดลดน้อยลง การซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบและผลปาล์มน้ำมันจะคล่องตัวขึ้น
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกระแสข่าวมีการนำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองจากประเทศบราซิลและสหรัฐ โดยไม่ต้องเสียภาษี เพื่อนำมาสกัดน้ำมันแข่งกับน้ำมันปาล์มนั้น กระทรวงพาณิชย์ขอชี้แจงว่าการนำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองจากบราซิลและสหรัฐนั้น ปี 2560 ไทยนำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองเพียงเล็กน้อย ส่วนเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้ามาใช้ผลิตอาหารสัตว์และแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารเป็นหลัก สำหรับการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองปี 2560 สิ้นเดือนกันยายน 2560 จำนวน 2.158 ล้านตัน เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันกับปี 2559 ปรากฏว่าลดลงร้อยละ 2.17
สำหรับผลผลิตปาล์มน้ำมันปี 2560 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดว่าจะมีปริมาณ 13.50 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 18.21 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของทั้งเนื้อที่ให้ผลและผลผลิตต่อไร่ ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณน้ำฝนมากขึ้น เกษตรกรดูแลดีใส่ปุ๋ยมากขึ้น เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมาราคาผลปาล์มน้ำมัน (18%) กก.ละ 3.20 – 3.60 บาท และน้ำมันปาล์มดิบ กก.ละ 19.00 – 19.25 บาท ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซีย (1 ธ.ค.60) กก.ละ 19.99 บาท ราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบช่วงที่ผ่านมามีมาก ประกอบกับโรงกลั่นฯ มีสตอกน้ำมันปาล์มคงเหลือมากกว่าความต้องการใช้แต่ละเดือน รวมทั้งภาวะการค้าน้ำมันปาล์มขวดชะลอตัว ทำให้ปริมาณการสั่งน้ำมันปาล์มจากโรงงานสกัดลดลงและซื้อราคาลดลง ส่งผลถึงผลปาล์มน้ำมันด้วย โดยสตอกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือจากการแจ้งตามประกาศ กกร. ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 สตอกน้ำมันปาล์มคงเหลือมากกว่า 400,000 ตันซีพีโอ มาถึงปัจจุบัน เนื่องจากปริมาณผลปาล์มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 ปริมาณผลปาล์มอยู่ที่ 1.11 ล้านตัน จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2560 อยู่ที่ 1.44 ล้านตัน ประกอบกับมีการส่งเสริมให้เกษตรกรทำปาล์มคุณภาพโดยการตัดปาล์มสุก เปอร์เซ็นต์น้ำมันเพิ่มขึ้น จาก 15 – 16% เป็น 17 – 18% ทำให้มีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นตามไปด้วย.-สำนักข่าวไทย
