พาณิชย์ดันฮาลาลไทยสู่ตลาดเอฟทีเอ

นนทบุรี  3 ธ.ค. – พาณิชย์เตรียมลงพื้นที่ให้ความรู้ผู้ประกอบการ 3 จังหวัดชายแดน ผลักดันฮาลาลไทยสู่ตลาดเอฟทีเอ  เผย 9 เดือนไทยส่งออกอาหารฮาลาลกว่า 4,100 ล้านเหรียญสหรัฐ


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนจัดสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส เพื่อต่อยอดนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการให้ปี 2561 เป็นปีแห่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและชุมชน จึงเตรียมจัดกิจกรรมใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตร ประมงและสินค้าฮาลาลที่สำคัญของไทยระหว่างเดือนธันวาคม 2560 – กุมภาพันธ์ 2561 โดยการจัดสัมมนาเรื่อง “ส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นการค้า การลงทุน พิชิตชัยชายแดนใต้” ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อผู้ประกอบการและเกษตรกรในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลเรื่องการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ของไทยและโอกาสในการส่งออกสินค้าเกษตร ประมง และสินค้าฮาลาลที่ผลิตในพื้นที่ภาคใต้ของไทยไปประเทศคู่ค้าเอฟทีเอที่ได้ลดภาษีนำเข้าและมีความต้องการสินค้าฮาลาล เช่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย รวมถึงตลาดใหม่ที่กำลังเจรจาทำเอฟทีเอกับไทย เช่น ปากีสถาน และตุรกี เป็นต้น

นางอรมน กล่าวว่า เป็นโอกาสดีของประกอบการ ผู้ผลิต และเกษตรกร รวมถึงประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้รับทราบโอกาสและช่องทางการเจาะตลาดสินค้าฮาลาลสามารถต่อยอดสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ โดยเดือนมกราคม-กันยายนปี 2560 ไทยส่งออกอาหารฮาลาล เช่น ข้าว น้ำตาล อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป รวมมูลค่า 4,129.36 ล้านเหรียญสหรัฐ ไปกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม โดยมีตลาดสำคัญ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิหร่าน ซาอุดิอารเบีย และปากีสถาน เป็นต้น ซึ่งภายในงานสัมมนาครั้งนี้จะมีวิทยากรจากกรมฯ เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดของเอฟทีเอโดยตรงและวิทยากรจากหน่วยงานอื่น ๆ เช่น ผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านการทำการตลาดผ่านสื่อดิจิทอล จะมาให้ความรู้ด้านกฎระเบียบของประเทศผู้นำเข้าสินค้าฮาลาลและช่องทางการจัดจำหน่าย โดยเฉพาะการทำการตลาดออนไลน์ที่จะช่วยให้ผู้ขายสามารถติดต่อกับผู้ซื้อโดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาพบกัน เป็นต้น


สำหรับการจัดสัมมนาครั้งนี้ กรมฯ จะจัดทั้งหมด 5 รุ่น ตั้งเป้าหมายรุ่นละ 100 คน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถเข้ารับฟังสัมมนาได้อย่างทั่วถึง  รุ่นที่ 1  วันที่ 18-19 ธันวาคม 2560 ณ โรงแรมยะลารามา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา รุ่นที่ 2  วันที่ 20-21 ธันวาคม 2560 ณ โรงแรมแกรนด์แมนดาริน อำเภอเบตง จังหวัดยะลา รุ่นที่ 3  วันที่ 24-25 มกราคม 2561 ณ โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี  รุ่นที่ 4 วันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ 2561 ณ โรงแรมอิมพีเรียล อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส และรุ่นที่ 5 วันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ 2561 ณ โรงแรมแกรนด์การ์เด้น อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส.-สำนักข่าวไทย          

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด