กทม.2 ธ.ค.-คณะครูและศิษย์เก่า รร.อัสสัมชัญ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลในฐานะเจ้าของโรงเรียน เร่งช่วยเหลือ คืนสิทธิสวัสดิการเงินบำนาญเลี้ยงชีพสำหรับครูวัยเกษียณ
นายสิทธิชัย ปริญญานุสรณ์ ศิษย์เก่าในฐานะผู้ประสานงาน ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้(2ธ.ค.)คณะครูอาจารย์โรงเรียนอัสสัมชัญ ซึ่งมีทั้งครูปัจจุบัน ครูเกษียณและศิษย์เก่า ประมาณ 300 คน เดินทางไปยื่นหนังสือที่มูลนิธิเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ซอยทองหล่อ25เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ หลังถูกยกเลิกเงินบำนาญเลี้ยงชีพสำหรับครูวัยเกษียณ
อย่างไรก็ตามการมายื่นหนังสือครั้งนี้ นายภราดาสุรสิทธิ์ สุขชัย ประธานมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ ไม่ได้ออกมารับหนังสือและไม่ได้ส่งผู้แทนออกมารับแทนแต่อย่างใด หลังจากนี้ ก็จะเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมตามขั้นตอนต่อไป
พร้อมกันนี้ ได้ออกแถลงการณ์ศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญพิทักษ์สิทธิครูอัสสัมชัญ เรื่อง คืนสิทธิประโยชน์ให้ครูโรงเรียนอัสสัมชัญฉบับที่ 1/2560
สืบเนื่องจากกรณีคณะครูโรงเรียนอัสสัมชัญ เรียกร้องขอความเป็นธรรมและขอให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเรื่องสิทธิแรงงานและสวัสดิการอัน พึงได้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ต่อมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าของโรงเรียนอัสสัมชัญโดยขอให้ ภราดาสุรสิทธิ์ สุขชัย ประธานมูลนิธิฯ ได้กรุณาเข้าร่วมการเจรจาเพื่อหาทางออก แต่จนบัดนี้ ภราดาสุรสิทธิ์ยังคงเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้อง
ในการนี้ศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญที่เห็นใจ เข้าใจและต้องการช่วยพิทักษ์สิทธิของคุณครูโรงเรียนอัสสัมชัญมีข้อสังเกตและความเห็นต่อกรณีนี้ดังนี้
1.ระเบียบปี 2534 ให้สิทธิครูเกษียณอายุเลือกรับบำเหน็จ หรือบำนาญ
อย่างใดอย่างหนึ่ง
2.ระเบียบปี 2549 ยกเลิกระเบียบปี 2534 แต่ยังคงให้สิทธิบำนาญแก่ครูที่
เกษียณอายุไม่เกินปี 2558
3. ระเบียบปี 2552 ขยายระยะเวลาตามขอ้ (2) เป็น ไม่เกินปี 2562
4. ระเบียบปี 2558 ยืนยันยกเลิกการให้สิทธิบำนาญสำหรับครูเกษียณ
อายุหลัง ปี 2562
5.ระเบียบปี 2549, 2552 และ 2558 ออกเพื่อลดทอนสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
ของคณะครูฯ และบังคับ ให้รับ ‘บำเหน็จ’ เพียงอย่างเดียว ทั้งที่เป็นสิทธิ
ประโยชน์ที่น้อยกว่า ‘บำนาญ’ อย่างมีนัยสำคัญ
6. ในระหว่างที่ระเบียบปี 2534 ยังมีผลบังคับ ใช้ ครูที่เกษียณอายุในปี
2541-2548 จำนวน 25 ท่านเสียชีวติ ไปแล้ว 2 ท่าน ถูกบังคับให้รับได้
เฉพาะบำเหน็จ อันถือเป็นการกระทำที่ีขัดต่อระเบียบละเมิดข้อตกลง
และละเมิดสิทธิของครู
7.จากกรณีตามข้อ (6) คณะครูฯ ได้เรียกร้องความเป็นธรรมเป็นการ
ภายในเพื่อมิให้เป็นข่าวครึกโครมมาเป็นระยะเวลาเกือบ 20 ปี แต่ได้รับ
การเพิกเฉยมาโดยตลอด
8. ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ีผ่านมา คณะครูฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้องและขอ
เชิญ ภราดาสุรสิทธิ์ ในฐานะประธานมูลนิธิฯ ผู้เป็นเจ้าของโรงเรียน เข้า
รับฟังและร่วมเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่ยังคงได้รับการเพิกเฉย
เช่นเดิม
9. หากภราดาสุรสิทธิ์เพียงแต่ปฏิบัติตามหน้าที่ ที่ดีของผู้บริหารสูงสุดของ
องค์กร ด้วยเมตตาธรรมและจิตตารมณ์ของศาสนจักร โดยการลงมา
ดูแลทุกข์สุขของคณะครูฯ ซึ่งเป็นบุคลากรหลักของโรงเรียนแล้ว
เหตุการณ์คงไม่ดำเนินมาจนถึงจุดวิกฤตเช่นนี้
10. จนกระทั่ง เมื่อ 21 และ 23 พฤศจิกายน 2560 คณะครูฯ ได้เรียนเชิญ
ภราดาสุรสิทธิ์อีกครั้ง แต่ได้รับการเพิกเฉยเช่นเคย จึงเป็นที่มาของการ
แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเรื่องการเรียกร้องขอความเป็นธรรม
11. กระแสข่าวที่ปรากฎในสื่อมวลชนและตามสังคมสื่อออนไลน์ ทำให้
ประชาคมอัสสัมชัญและสังคมโดยทั่วไปรู้สึกไปในทางลบต่อการ
ปฏิบัติของผู้บริหารมูลนิธิฯ ต่อคณะครูฯ
ศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญพิจารณาแล้วเห็นว่า การลิดรอนและละเมิดสิทธิประโยชน์อนั พึงได้ตามระเบียบฯ นั้น เป็นเรื่ืองที่ไม่ถูกต้อง และการที่ภราดาสุรสิทธิ์ เพิกเฉยต่อคณะครู มาอย่างเนิ่นนาน อาจเนื่องมาจากมี
มุมมองว่า ครูมีสถานะเป็นเพียง ‘ลูกจ้าง’ ทั้งที่ในข้อเท็จจริงแล้ว ครูมิได้มีสถานะเป็นลูกจ้างตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน แต่มีสถานะเป็ น ‘ครู’ ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการคุ้มครองการทำงานของครูใหญ่และครูโรงเรียนเอกชน ดังนั้น เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของครูและเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่การเรียนการสอนของนัก เรียน ศิษย์เก่าฯ จึงมีจุดยืนที่จะให้ความช่วยเหลือคณะครูฯ ตามสิทธิและศักยภาพที่ทำได้ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
ก. ศิษย์เก่ามีฐานะเป็นผู้มีส่วนได้เสียต่อชื่อเสียงของโรงเรียน
ข. ศิษย์เก่ามีฐานะเป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่คาดหวังบริการทาง
การศึกษาที่ได้มาตรฐานจากครู ที่มีขวัญกำลังใจในการทำงาน
ค. ศิษย์เก่าหลายรุ่นมีฐานะเป็นผู้สนับสนุนกองทุนเพื่อครูเกษียณโดยตรงและโดยอ้อม ด้วยจิตกตัญญูกตเวทิตา
จึงขอเรียกร้องให้ ภราดาสุรสิทธิ์ สุขชัย ประธานมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยในฐานะเจ้าของโรงเรียนอัสสัมชัญ มีเมตตาธรรมตามจิตตารมณ์ของศาสนจักร ยุติการแสดงความเพิกเฉยต่อกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นและขอให้แสดงความรับผิดชอบ ความจริงใจ และความใส่ใจ ต่อการแก้ปัญหาด้วยการคืนสิทธิประโยชน์อันชอบธรรมให้แก่คณะครูฯ โดยทันที ทั้งนี้ เพื่อให้เกิด ความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นขวัญกำลังใจให้กับคณะครูฯ ที่ต้องสอนลูกสอนหลานของพวกเราได้อย่างมีคุณภาพ รวมถึงป้องกันมิให้วิกฤตการณ์นี้บานปลายจนนำไปสู่การเกิดประเด็น
ปัญหาเรื่องอื่นๆ ตามมา ซึ่งจะกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของมูลนิธิฯ ต่อไปได้
ศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญพิทักษ์สิทธิครู 2 ธันวาคม 2560” .-สำนักข่าวไทย