นายกรัฐมนตรีแจงโรงไฟฟ้าถ่านหิน”เทพา”


กรุงเทพฯ 2 ธ.ค.-นายกรัฐมนตรี ย้ำยังไม่ได้ตัดสินใจจะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน”เทพา”
วอนทุกฝ่ายดูข้อเท็จจริง พร้อมรับฟังทุกช่องทาง แจง กฟผ.
มีแผนป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อม การย้ายโรงเรียนมีผู้ยอมรับ  ในขณะที่แผนก่อสร้างก็ทำเพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและไฟฟ้าใต้ไม่ขาดแคลน


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2560
โดยกล่าวว่า เรื่องโรงไฟฟ้าที่ภาคใต้
เป็นประเด็นสำคัญ ประเด็นร้อน ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ไปดำเนินการให้ได้ข้อยุติปราศจากความขัดแย้ง
  
รัฐบาลไม่อยากจะดึงดันอะไรกับใครทั้งสิ้น เพราะต้องคำนึงถึงต้นทุนในการก่อสร้าง
พื้นที่ในการก่อสร้าง แล้วก็ความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า หลายคนก็บอกว่าค่าไฟฟ้าแพง
อยากให้ค่าไฟฟ้าลดลง ค่าไฟฟ้าจะลดลงไม่ได้ถ้าการผลิตต่าง ๆ ไฟฟ้าจากพลังงานหลักนี่
มาจากส่วนกลาง หรือในภาคอื่น แล้วส่งลงไปพื้นที่ห่างไกล เพราะต้องบวกต้นทุนในเรื่องของการทำสายส่งเข้าไปด้วย
เพราะฉะนั้นต้นทุนจะเกิดจากแหล่งที่ก่อให้เกิดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นแก๊ส เป็นน้ำมัน
เป็นถ่านหิน
 ลิกไนต์
อะไรก็แล้วแต่ แล้ววันนี้มีเทคโนโลยีมากมายที่จะแก้ปัญหาเดิม ๆ ได้
เพราะฉะนั้นนี่คือต้นทุนอันที่หนึ่ง อันที่สองคือเทคนิคในการก่อสร้างโรงงาน
ก็แพงขึ้นเครื่องไม้เครื่องมือก็แพงขึ้น อันที่สามคือสายส่ง
ซึ่งเหล่านี้จะทำให้บวกเข้าไปในค่าต้นทุน

“คราวนี้สมมุติว่าไปสร้างในพื้นที่ห่างไกล
ได้ก็จะลดในส่วนนี้ ไม่ต้องไปลากมาจากไกล ๆ ถ้ามีปัญหาอีก
ก็ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องความพลังงาน เกิดไฟฟ้าตก ไฟฟ้าดับ จะทำอย่างไร หากไปซื้อมาจากต่างประเทศ
ซึ่งวันนี้ก็ซื้อได้ แต่ถ้าวันหน้าเขาขายน้อยลง หรือเขาตั้งราคาขายสูงขึ้น
แล้วเราจะทำยังไง จะมีคำตอบหรือไม่ว่า เราจะดูแลประชาชนเราได้อย่างไร
ก็อยากให้คำนึงถึงทุกมิติเหล่านี้  เหล่านี้คือต้นทุนการไฟฟ้าทั้งสิ้น ฝากทุกคนช่วยกันคิดด้วยแล้วกัน
  ผมก็ไม่ได้บอกว่า ต้องอย่างนี้
ต้องอย่างนั้น เพียงแต่ผมเสนอแนวทาง เสนอหนทางปฎิบัติ กระทรวงพลังงานเขามีหน้าที่ในการหาไฟฟ้า
หาพลังงาน มีกฎหมายของเขาด้วย
” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

 


นายกรัฐมนตรีย้ำว่า  ทุกคนต้องฟังเหตุฟังผลซึ่งกันและกัน ที่ผ่านมา
ทางราชการมีการ บังคับใช้กฎหมาย เพราะไม่อยากให้ปัญหาลุกลามบานปลาย  ประชาชนก็ต้องเคารพกฎหมาย  การที่จะส่งข้อมูลอะไรถึงนายกรัฐมนตรี  ก็มีหลายช่องทาง พร้อมจะฟังทุกวัน
แล้วก็เรื่องไฟฟ้า ถ่านหินเทพา ไม่ว่าจะกระบี่ อะไรต่าง ๆ ข้อมูลมีทั้งหมด มีทั้ง
2 ทาง ทั้งภาคประชาชนและภาคราชการ  ทางรัฐบาลพร้อมจะตอบคำถามทุกคำถาม
แล้วก็ฟังทุกคน โดยเรื่องโรงไฟฟ้าก็มีประเด็นหลายประเด็นที่มีข้อสงสัย
  ซึ่งขณะนี้ไม่ได้พูดถึงว่าจะสร้างได้หรือไม่ได้   แต่ติดปัญหาที่มีข้อสงสัยได้แก่

 (1) การย้ายวัดและโรงเรียน
โดยเฉพาะโรงเรียนมูลนิธิอิตีซอมวิทยา
  ก็มีการหารือในพื้นที่ไปแล้ว
ว่าจะมีการเคลื่อนย้ายไปพื้นที่แห่งใหม่ จะห่างจากที่ตั้งเดิมไม่เกิน 5 กิโลเมตร
  ข้อมูล ส่วนหนึ่งที่ว่า 5 หมื่นคน มีความพอใจ
 ก็ไม่ทราบว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นตรงนี้
 

(2) การโยกย้ายประชาชน  วันนี้ก็ยังไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะยังไม่ได้เริ่ม
เพราะฉะนั้นถ้าผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม
  และเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว  ถึงจะไปเริ่มต้น  ก็ต้องไปดูเรื่องการเยียวยา
การดูแลที่อยู่อาศัย หรือค่าเยียวยาต่าง ๆ ให้เหมาะสม
  วันนี้ยังอยู่ในขั้นการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม
(
 EIA)
และผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
 (EHIA )   

 (3)เรื่องสิ่งปลูกสร้างในทะเลจะกีดขวางการไหลของน้ำ
ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งหรือไม่
วันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันล่วงหน้าไปแล้วในพื้นที่
  ประชาชนที่ฟังมีความเข้าใจ
ส่วนที่ไม่ฟังเหตุผลก็ไม่เข้าใจ  โดยมีการกำหนดมาตรการรองรับชัดเจน
เช่น การทำเขื่อนป้องกัน จึงไม่มีผลกระทบต่อการสัญจรทางเรือ ชีพประมง
และการกัดเซาะชายฝั่ง
   ซึ่งช่วงการก่อสร้างมันก็มีผลกระทบอยู่บ้างในช่วงแรก
พอสร้างเสร็จแล้ว ปลา สัตว์น้ำ ก็จะกลับเข้ามาอยู่ใหม่เหมือนเดิม
   ไม่ใช่หายไปหมด

(4) การใช้ถ่านหินคุณภาพดี ประเภท “บิทูมินัสและ ซับบิทูมินัสเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ
ด้วยเรือบรรทุกแบบปิดที่เรียกว่า
  “ระบบปิดคลุมทุกอย่าง  ไม่มีการใช้ถ่านหินจากแหล่งในประเทศ
ที่มีการกล่าวอ้างกัน บอกว่ามีถ่านหิน
ลิกไนต์อยู่ในประเทศ  รัฐบาลต้องการตรงนี้เพื่อจะไปขุดถ่านหินลิกไนต์
เอามาใช้เอื้อประโยชน์กับนายทุนอีก
  เป็นคนละเรื่อง
ซึ่งข้อมูลไม่ตรงกันเลย
  เราใช้เทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด
เท่าที่ผมศึกษาดูของโรงงาน เทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด ซึ่งแก้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม  กรณีที่แม่เมาะ จ.ลำปาง
  วันนี้เปลี่ยนเครื่องจักรเครื่องมือ
แล้วผมไม่เห็นมีปัญหาอะไร คนก็อยู่ได้ ปลา สัตว์ ต้นไม้ต่าง ๆ ก็อยู่ได้เป็นปกติ

 (5)
การใช้น้ำทะเลเป็นน้ำหล่อเย็น มีระบบกำจัดการสะสมของโลหะหนัก ที่ทุกคนเป็นห่วง
  มีการควบคุมการปรับคุณภาพน้ำ
ก่อนที่จะระบายสู่ทะเลธรรมชาติให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ประเภท 1 คือ
ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ทางทะเล โดยเราก็ใช้สัตว์น้ำ อาทิ หอยแครง
  หอยแมลงภู่ เป็นตัวชี้วัดทางชีวภาพ
ณ จุดปล่อยน้ำ อันนี้ถ้าสร้างได้ก็ไปช่วยดูแล้วกัน มีตาย มีอะไรหรือไม่
อันนี้เป็นหลักการทางเทคนิค
 ขอให้เชื่อมั่นว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ต้องการควบคุม
ด้วยเทคโนโลยีที่ศึกษามา

“ผมขออนุญาตนำเฉพาะประเด็นที่สงสัยกันมานำเสนอ
ให้ทุกคนได้พิจารณาร่วมกัน
  ส่วนรายละเอียดอื่น
ๆ นั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบ กระทรวงพลังงาน และผู้ว่าราชการจังหวัดก็ต้อง
มีข้อมูลพร้อมตอบ และสร้างความเข้าใจ ฝากพี่น้องประชาชนที่เห็นด้วย
ช่วยกรุณาทำความเข้าใจกับผู้ไม่เห็นด้วยด้วย อย่าให้รัฐบาลต้องไปตัดสินเลย
ก็จะเป็นปัญหากระทบกระทั่งระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนอีก
  แล้วเราก็จะถูกจับตามองอย่างที่ท่านกล่าวอ้าง   ข้าราชการ ประชาชน ภาคเอกชน
ก็ต้องร่วมมือหารือกัน เพราะว่าเราต้องพัฒนาไปสู่การมีแหล่งพลังงานที่เหมาะสม
เพียงพอเพื่ออนาคต เพราะเราจะลงทุนต่าง ๆ
 มากมาย ถ้าไฟฟ้าไม่พอ ไม่มั่นคง ติด ๆดับ ๆ
หรือไฟฟ้าตก
 อันนั้นอันตรายต่อไป
หรือหากอยากซื้อจากต่างประเทศทั้งหมด แล้วไม่มีการส่งพลังงาน
ท่อแก๊สมาจากต่างประเทศ
  ประเทศเพื่อนบ้าน
ไม่มีขายไฟฟ้าต่อไป เพราะว่าเขาเอาไว้ใช้ในประเทศของเขา เราจะทำอย่างไร
คิดอนาคตไว้ด้วย
”นายกรัฐมนตรีกล่าว
– สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ชวนอุดหนุนผลไม้ไทย เล็งจัด Thai Fruits Festival

ทำเนียบ 14 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ชวนประชาชนอุดหนุนผลไม้ไทย เตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เร่งเจรจา FTA ดันการส่งออกนำผลไม้ไทยร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดสร้างโอกาสให้เกษตรกร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน TikTok ชื่อบัญชี ingshin21 เชิญชวนประชาชนอุดหนุนและรับประทานผลไม้ไทย โดยกล่าวว่า “เป็นคลิปแรกที่มาอยากมาขายของเป็นแม่ค้าหนึ่งวัน ผลไม้ไทยมีเยอะมากที่อร่อย พร้อมนำผลไม้ที่จัดใส่จาน ทั้ง มังคุด เงาะ ทุเรียน รวมถึงข้าวเหนียวมะม่วง แล้วจะมาเชิญชวนให้ พี่น้องคนไทยทุกคนให้ทานผลไม้ไทย และสองปีที่แล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงของเราดังไปทั่วโลก ซึ่งมะม่วงของเราอร่อยจริงๆ ไปเจอที่เมืองนอกแพง แต่ที่เมืองไทยราคาดี เพราะฉะนั้นอดอุดหนุนผลไม้ไทยกันหน่อยนะคะ อร่อยด้วยราคาดีด้วย ไม่อย่างนั้นเวลาไปอยู่เมืองนอกนานๆ ซื้อที่เมืองนอกแพง ตอนนี้เมืองไทย มะม่วงราคาดีมากผลไม้ทุกอย่างก็ราคาดี และอากาศปีนี้ดีทำให้ผลไม้ค่อนข้างหวาน หาซื้อได้ง่าย ดังนั้นขอให้อุดหนุนผลไม้ไทยกันเยอะๆ” นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุข้อความ ด้วยว่า “สวัสดีค่ะ ทุกคน หน้าผลไม้แล้วค่ะ ปีนี้ผลไม้ไทยผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% […]

ศาล รธน.สั่ง “ทวี” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ

ศาลรัฐธรรมนูญ 14 พ.ค.- มติศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ สั่ง “พ.ต.อ.ทวี​” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานบอร์ดคดีพิเศษ เหตุสงสัยว่าแทรกแซงรับสอบฮั้วเลือก สว. ส่วน “ภูมิธรรม” ยังรอด ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้วินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ถูกร้องที่ 1 และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีผู้ถูกร้องทั้งสอง มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการ […]

แก๊งเผานั่งยางหนีขึ้นภูเขา จนท.จัดกำลังเร่งล่า

ตรัง 14 พ.ค. – เกาะติดคดีเผานั่งยาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบกว่า 50 นาย เร่งวางกำลังไล่ล่า 4 มือเผา หลังได้เบาะแสทั้งหมดหนีขึ้นไปบนเขา ที่โรงเรียนบ้านเขาหลัก หมู่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ชุดสืบสวนสอบสวน ภาค 9 ชุดสืบสวนสอบตำรวจภูธรจังหวัดตรัง รวมกว่า 50 นาย พร้อมกับพราน และชาวบ้านที่ชำนาญพื้นที่ ร่วมกันวางแผนติดตาม 4 ผู้ต้องหา คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือแจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

โป๊ปองค์ใหม่เริ่มใช้งานโซเชียลมีเดีย

วาติกัน 14 พ.ค. – สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเริ่มใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้หลังทรงได้รับเลือกเป็นพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงโพสต์ข้อความลงบนสื่อโซเชียลครั้งแรกเมื่อวานนี้ หลังจากทรงได้รับเลือกให้เป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื้อหาที่โพสต์มาจากพระดำรัสของพระองค์ที่ทรงปราศรัยต่อสาธารณชนครั้งแรก และมีรูปถ่ายบางส่วนซึ่งเป็นภาพในวันแรกที่ทรงเข้ารับตำแหน่งของพระองค์ เนื้อหาข้อความที่โพสต์มีใจความว่า “ขอให้สันติสุขอยู่กับพวกท่านทุกคน นี่คือคำทักทายแรกที่พระคริสต์ผู้ทรงฟื้นคืนพระชนม์ ข้าพเจ้าอยากให้คำทักทายแห่งสันติสุขนี้ก้องอยู่ในใจของพวกท่าน ในครอบครัวของท่าน และในหมู่ผู้คนทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดในทุกประเทศ และทั่วโลก” โป๊ปเลโอที่ 14 ทรงเลือกใช้บัญชีแพลตฟอร๋มเอ็กซ์ ที่เป็นบัญชีเดิมที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสผู้ล่วงลับ และสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงเคยใช้งานมาก่อนซึ่งบัญชีดังกล่าวมีผู้ติดตามมากถึง 52 ล้านคนจากบัญชีทั้ง 9 ภาษา ส่วนแพล็ตฟอร์มอินสตาแกรมทรงใช้ชื่อบัญชีใหม่ของพระองค์เอง คือ Pontifex – Pope Leo XIV ซึ่งจะเป็นบัญชีอย่างเป็นทางการเพียงบัญชีเดียวบนแพล็ตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นของบริษัทเมตา ล่าสุดมียอดผู้ติดตามแล้ว 3.2 ล้านคน.-816.-สำนักข่าวไทย