กรุงเทพฯ 23 ก.พ.-เลขาฯ กกพ. เผยต้นทุนค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. มีแนวโน้มลดลง จากบาทแข็ง และดีมานด์ LNG ทั่วโลกที่ลดลง
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่าต้นทุนค่าไฟฟ้างวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม มีแนวโน้มปรับลดลง ปัจจัยบวกมาจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ราคา Spot LNG ในตลาดโลกปรับลดลง สืบเนื่องมาจากหลายๆประเทศซื้อ LNG มาไว้ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการใช้แล้ว ทำให้ดีมานด์ในตลาดลดน้อยลง เช่น ประเทศญี่ปุ่นจนต้องขายออกบางส่วน ส่งผลให้ราคา Spot LNG ในขณะนี้ลงมาไม่ถึง 10 ดอลล่าร์สหรัฐต่อล้านบีทียู ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่ารอบที่ผ่านมา ซึ่งมีราคาอยู่ที่ประมาณ 14 ดอลล่าร์สหรัฐต่อล้านบีทียู จึงทำให้สามารถฟอร์แคสต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ถูกกว่างวดที่แล้ว โดยต้นทุนค่าไฟฟ้างวดที่แล้ว(ม.ค.-เม.ย.)อยู่ที่ 14.18 บาทต่อหน่วย
“ย้ำว่าส่วนที่จะลดลงคือต้นทุนค่าไฟฟ้า ส่วนค่าไฟสุดท้ายที่จะเรียกเก็บจากประชาชนนั้น กกพ.จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน เนื่องจากยังมีภาระหนี้ของกฟผ. และปตท. ซึ่งจะต้องนำมาพิจารณาประกอบด้วย ส่วนปริมาณก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย ที่จะมาตามกำหนดก็จะมีส่วนช่วยให้ค่าไฟฟ้าลดลงแต่ทั้งนี้ก็มีผลไม่มาก เนื่องจากขณะนี้ราคา Spot LNG ในตลาดโลกไม่สูงต่างกันราวๆ 2 ดอลล่าร์เท่านั้น” นายคมกฤช กล่าว.-517.-สำนักข่าวไทย