จี้รัฐตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ

ตลท. 30 พ.ย. – นายกสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จี้รัฐเร่งตั้งกองทุนบำเหน็ญบำนาญแห่งชาติโดยเร็ว เพื่อดูแลชีวิตหลังเกษียณ 


ในการเสวนา “เรามีความพร้อมหรือยังกับการมีกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติภาคบังคับ” นายพิสิฐ ลี้อาธรรม นายกสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กล่าวว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติภาคบังคับ (กบช.)  มีความจำเป็นสำหรับประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการดูแลสุขภาพและสวัสดิการของผู้สูงวัยที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ขณะที่อัตราการออมของคนไทยยังต่ำ ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับใช้หลังเกษียณ ดังนั้น ขอให้รัฐบาลเร่งผลักดันให้มีการจัดตั้ง กบช.ภาคบังคับโดยเร็ว  เพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณของผู้ประกันตนมีความมั่นคงและมีความสุข ไม่เช่นนั้นจะมีรายได้ไม่เพียงพอในการดำรงชีพ

นางสาวสุปาณี จันทรมาศ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออมการลงทุน และพัฒนาตลาดทุน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ ผ่านการพิจารณาของสำนักงานกฤษฎีกาทั้ง 3 วาระแล้ว อยู่ระหว่างการเสนอกลับไปให้กระทรวงการคลังยืนยัน เพื่อนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตั้งกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอีกครั้ง  คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ปี 2561 และให้เวลาบริษัทเอกชน 1 ปี ในการเตรียมตัว ก่อนที่นายจ้างจะต้องเริ่มส่งเงินสมทบเข้ากองทุนไตรมาส 1-2 ในปี 2562 


นางสาวสุปาณี ยืนยันว่า กบช.มีความจำเป็นในการดูแลรายได้หลังเกษียณ เพราะปัจจุบันผู้ประกันตนในระบบที่ส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคมประมาณ 11 ล้านคน มีสมัครเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคสมัครใจเพียง 3 ล้านคน ส่วนอีก 8 ล้านคนส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคมเพียงช่องทางเดียว มีรายได้หลังเกษียณเพียงร้อยละ 19 -20 ของเงินเดือนเดือนสุดท้าย ซึ่งไม่เพียงพอ ดังนั้น 8 ล้านคนจึงเป็นเป้าหมายที่จะดึงเข้ากบช. เพื่อให้คุณภาพชีวิตหลังเกษียณมีรายได้ประมาณร้อยละ 50-60 ของรายได้ก่อนเกษียณ ถึงจะเพียงพอใช้จ่าย

นางสาวสุปาณี กล่าวว่า เมื่อร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ มีผลบังคับใช้ พนักงานใหม่และพนักงานเดิมที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต้องถูกบังคับให้เป็นสมาชิก กบช.โดยบังคับและต้องส่งเงินเข้า กบช.เริ่มต้นที่ร้อยละ 3 ส่วนพนักงานเดิมที่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่แล้วกฎหมายจะกำหนดให้ส่งเงินเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่าร้อย 3 เช่นกัน 

สำหรับในร่างกฎหมายของ กบช.อัตราการส่งเงินที่เหมาะสมของลูกจ้างและนายจ้างสูงสุดได้ไม่ควรเกินร้อยละ 15 ของค่าจ้าง โดยปีที่ 1-3 ส่งได้ไม่น้อยกว่าฝ่ายละร้อยละ 3 ของค่าจ้าง และปีที่ 4-6 ส่งเงินไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของค่าจ้าง และปีที่ 7-9 ส่งไม่น้อยกว่าร้อยละ  7 ของค่าจ้างจะเพียงพอในยามเกษียณ และจะได้เงินบำนาญต่อเมื่อเกษียณอายุเท่านั้น โดยสมาชิกจะสามารถเลือกบำนาญ 20 ปี หรือบำเหน็จเมื่ออายุครบ 60 ปี. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ