Solar rooftop ยังแรงคาดคนไทยติดตั้งร้อยละ 20 ในปี 79

กรุงเทพฯ 29 พ.ย. – แผนพยากรณ์ไฟฟ้าใหม่ 20 ปีข้างหน้า คาดความต้องการใช้สูงสุด (พีค) ลดลง 3,800-4,500 เมกะวัตต์ หลังประชากรลดลง จีดีพีชะลอตัว คนไทยติด SOLAR ROOFTOP  ร้อยละ 20 ภาพรวมผลิตไฟฟ้าใช้เองเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 5,200 เมกะวัตต์ โครงการอีวี อีอีซี และรถไฟฟ้าความเร็วสูงแจ้งเกิด ใช้ไฟฟ้าเพิ่ม 3,000 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินจะยุติหรือไม่ต้องดูเรื่องค่าไฟฟ้า-ความมั่นคงพลังงาน  


กระทรวงพลังงานจัดสัมมนาการพยากรณ์ไฟฟ้า หรือ Load  forecast  ทิศทางการใช้ไฟฟ้าในอนาคต เพื่อนำไปสู่การปรับแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี)  20 ปี ที่ใช้ไปถึงปี 2579 เป็นการปรับจากแผนปัจจุบัน หรือแผนปรับปรุงพีดีพี 2015 ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในกลางปี 2561 โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยแนะนำว่าแผนการผลิตไฟฟ้าควรจะมีพลังงานทดแทนเพิ่มจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 40



นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำค่าพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้า กล่าวว่า การพยากรณ์ไฟฟ้ายังไม่ได้นำเรื่องการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานทดแทนมาคำนวณ โดยจะทำการพยากรณ์ให้เสร็จและให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ไปปรับปรุงแผนพลังงานทดแทน หลังจากนั้นจะทราบว่าพลังงานทดแทนเพิ่มเป็นเท่าใด 

นายทวารัฐ กล่าวว่า แผนพยากรณ์ใหม่มีการพิจารณาทั้งเรื่องการขยายตัวทางศรษฐกิจ (จีดีพี) ระยะยาวของประเทศ โดยดูจากตัวเลขสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยประเมินว่าระยะยาวอัตราการขยายตัวของจีดีพีจะลดจากเฉลี่ยร้อยละ 3.9 เหลือร้อยละ 3.78 ต่อปี ,การพิจารณาจากจำนวนประชาชนที่แนวโน้มจะไม่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2570 และทั้งแผนจะลดลงร้อยละ 0.016 ,การนำ 3 โครงการของรัฐคำนวณ คือ โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่คาดว่าการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 404 เมกะวัตต์, โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพิ่มขึ้น 163 เมกะวัตต์  และรถยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) 1.2 ล้านคัน การใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น 2,466 เมกะวัตต์มาพิจารณาจะทำให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นรวม3,033 เมกะวัตต์ (9,872 ล้านหน่วย)


นอกจากนี้ แผนพยากรณ์ใหม่ยังเป็นครั้งแรกที่พิจารณาโครงการที่ประชาชนและภาคเอกชน มีการผลิตไฟฟ้าใช้เอง ทั้งโรงงานและที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะ Solar rooftop ที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าปี 2579 จะมีการติดตั้งประมาณร้อยละ  20 ของหลังคาเรือนในประเทศไทย รวมถึง SMART GRID, SMART CITY, ระบบสำรองไฟฟ้า (ENERGY STORAGE)  ทำให้ระบบผลิตไฟฟ้าใช้เองเพิ่มจาก 3,300 เมกะวัตต์ (24,000 ล้านหน่วย) ในปี 2560 เป็น 5,277 เมกะวัตต์ (44,412 ล้านหน่วย) ในปี 2579 

ดังนั้น การพยากรณ์พีคปลายปี 2579 เมื่อรวมกับการผลิตไฟฟ้าใช้เองของภาคเอกชน พีคจะอยู่ที่ 60,048 เมกะวัตต์ ( 414,852 ล้านหน่วย ) หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 3.3  อย่างไรก็ตาม หากคำนวณเฉพาะการผลิตไฟฟ้าในระบบที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), ไอพีพี, เอสพีพีแล้ว พีคไฟฟ้า จะอยู่ที่ 54,771 เมกะวัตต์ (372,440 ล้านหน่วย) ดังนั้น หากเปรียบเทียบกับแผนกับพีดีพีปัจจุบันที่ไม่ได้คำนวณรวมกับการผลิตไฟฟ้าใช้เองของภาคเอกชนแล้ว  พีคไฟฟ้าจะลดลง 4,529 เมกะวัตต์ (20,895 ล้านหน่วย) แต่หากคำนวณรวมกับการดำเนินการตามแผนอนุรักษ์พลังงานได้ตามแผนร้อยละ 30 แล้ว คาดว่าพีคจะลดลง 3,847 เมกะวัตต์ (45,808 ล้านหน่วย ) หรือความต้องการใช้ไฟฟ้าจะโตประมาณร้อยละ 2.3 ต่อปี ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะต้องนำมาใช้ในการปรับแผนพีดีพีต่อไป

“แผนประเมิน SOLAR ROOFTOP นั้น  อ้างอิงการศึกษาจากต่างประเทศที่ระบุว่าต้นทุนของการแทรกตัว (Penetration) ของ Rooftop ในพื้นที่หนึ่งจะอิ่มตัว (100%) ภายใน 50 ปี เนื่องจากราคาที่ลดต่ำลงต่อเนื่องของ SOLAR ROOFTOP อย่างไรก็ตาม จากแผนพยากรณ์จะเห็นได้ว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แต่ประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับจีดีพี ก็จะดีขึ้น โดยอยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 0.61-0.87” นายทวารัฐกล่าว  

นายทวารัฐ กล่าวด้วยว่า แม้ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะลดลงจากแผนปัจจุบันแล้ว จะมีการทบทวนเพื่อยกเลิกการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา, กระบี่ หรือไม่นั้น จะเป็นเรื่องที่ คณะกรรมการพีดีพีจะไปพิจารณาต่อ โดยต้องพิจารณาทั้งเรื่องต้นทุนค่าไฟฟ้า ความมั่นคงด้านพลังงาน และการกระจายเชื้อเพลิง 

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากกระทรวงพลังงานปรับแผนพลังงานทดเทนเพิ่มสัดส่วนจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 30 ของการผลิตไฟฟ้า คาดว่าจะมีการส่งเสริม SOLAR ROOFTOP เพิ่มขึ้นอีกประมาณ  10,000 เมกะวัตต์ หรือเฉลี่ยปีละ 500 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นโอกาสของบริษัทที่จะสามารถให้บริการติดตั้ง SOLAR ROOFTOP มากขึ้น.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก