กทม.28 พ.ย.- แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรลวงผู้พิพากษาหวังข้อมูลการเงิน อ้างมีคดีติดตัว“เลขาฯศาลยุติธรรม” เตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อหลังศาลทั่วภูมิภาคถูกอ้างชื่อหลอกเอาข้อมูล เร่งประสานหน่วยงานรัฐล่าตัว
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า หลังโฆษกศาลยุติธรรม ทราบข้อมูลจากศาลจังหวัดสงขลาว่ามีประชาชนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างศาลเพื่อขอข้อมูลส่วนตัวนั้น ล่าสุดวานนี้ (27 พ.ย.)ได้รับแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้พิพากษาด้วยกันว่า แก๊งนี้ได้ใช้หมายเลขโทรศัพท์พื้นฐาน ที่เป็นหมายเลขเดียวกับศาลจังหวัดบึงกาฬ โทรเข้ามือถือผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่ อ้างว่ามีหมายคดีค้างที่ศาลให้ติดต่อกลับโดยไม่รู้ว่าปลายสายคือผู้พิพากษา และท่านได้ตัดสายทิ้ง มิจฉาชีพจึงไม่ได้ข้อมูลใดๆไป และได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทราบ ขณะนี้ได้รับข้อมูลจากผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่หลายท่านว่าได้รับโทรศัพท์เช่นนี้เหมือนกันโดยมีข้อมูลว่าโทรมาจากหมายเลขพื้นที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ด้วย จึงได้แจ้งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูลและหาผู้แอบอ้างเพื่อเอาผิดตามกฎหมาย โดยสำนักงานศาลยุติธรรมจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
นายสราวุธ ยังเตือนฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนว่าขณะนี้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาละวาดโทรหาแล้วแอบอ้างว่าโทรมาจากศาล และบางพื้นที่ประชาชนหลงเชื่อและโอนเงินให้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายฐานฉ้อโกงประชาชน ดังนั้นขออย่าได้หลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างว่าโทรมาจากศาลแล้วบอกว่ามีหมายจากศาลอ้างว่าท่านได้กระทำผิดแล้วให้โอนเงิน ซึ่งไม่เป็นความจริง หากประชาชนได้รับโทรศัพท์ สามารถตรวจสอบข้อมูลจากทุกศาลได้ ทั้งนี้สำนักงานศาลยุติธรรมได้ประสานเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพื่อเอาผิดตามกฎหมายแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดสงขลาได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนนับร้อยสายว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมหรือเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดสงขลา ขอข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือข้อมูลการเงิน โดยพบพฤติกรรมลักษณะนี้มาหลายครั้ง เช่น แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ศาลอาญาบ้าง หรือเจ้าหน้าที่จากศาลอื่นทั้งในรูปแบบระบบเสียงอัตโนมัติและบุคคลเป็นผู้โทรศัพท์ กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้มักอ้างว่าเหยื่อได้รับหมายศาลทำให้เหยื่อที่ได้รับโทรศัพท์ติดต่อส่วนใหญ่ตกใจและกดหมายเลขติดต่อกับมิจฉาชีพดังกล่าวเพื่อขอรับความช่วยเหลือ หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็จะเสนอตัวเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยหลอกลวงว่าจะตรวจสอบข้อมูลให้แต่มีค่าใช้จ่าย.-สำนักข่าวไทย