26 พ.ย.- รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมายืนยันกรณีครูจอมทรัพย์ ว่าตำรวจทำงานตามขั้นตอนกฏหมาย และจะดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมเสื่อมเสีย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าบุคคลผู้ใดหรือกลุ่มใด ที่ทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสีย ได้รับความเสียหาย ทำให้กระบวนการยุติธรรมไม่มีความน่าเชื่อถือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันจะดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้อง สนับสนุน ให้การช่วยเหลือไม่ว่าทางใด จะดำเนินการเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลที่ดูถูกกระบวนการยุติธรรมอีกต่อไป
ส่วนความคืบหน้ากรณีดำเนินคดีขบวนการว่าจ้างให้มีผู้รับว่าเป็นผู้กระทำผิดแทนครูจอมทรัพย์ ศรีบุญหอม หรือ แสนเมืองโคตร เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจับกุมตัวนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง หนึ่งในผู้ต้องหา เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ว่าจ้างนายสับ วาปี ให้มารับผิดแทนนางจอมทรัพย์ เป็นจำนวนเงิน 4 แสนบาท รวมทั้งให้การอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทำให้ คดีนี้ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน ตามข้อหาและฐานความผิดที่เกิดขึ้นในแต่ละท้องที่สถานีตำรวจในเขตจังหวัดนครพนม ล่าสุด มีการจับกุมมาดำเนินคดีแล้ว 2 คน เข้ามอบตัว 4 คน และอีก 2 คน พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
โดยผู้เกี่ยวข้องทั้ง 8 คน ประกอบด้วย นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือ ศรีบุญหอม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนล่าสุดที่ถูกออกหมายจับ และถูกจับกุมแล้ว ในข้อหา ร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดี อาญา ซ่องโจร และร่วมกันนำสืบพยานหลักฐานเท็จในคดีอาญา ซึ่งเจ้าตัวยังให้การปฎิเสธ
นายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง เพื่อนสนิทครูจอมทรัพย์ ที่เป็นผู้ว่าจ้างนายสับ วาปี ให้รับผิดแทน ด้วยจำนวนเงิน 4 แสนบาท และเพิ่งถูกจับกุมไปเมื่อคืนที่ผ่านมา ในข้อหาร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จในคดีอาญา ใช้ผู้อื่นเบิกความเท็จและซ่องโจร
นายสับ วาปี และนางจัน วาปี ภรรยานายสับ ทั้ง 2 คน ถูกแจ้ง 4 ข้อหา เบิกความเท็จ ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จและซ่องโจรโดยนายสับ ซัดทอด ว่าครูอ๋อง เป็นผู้จ้างวาน ด้วยเงิน 4 แสนบาท ขณะนี้ทั้งคู่อยู่ระหว่างฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม
นายบุญเทิง วาปี และนายเลิศ วาปี เป็นพี่ชาย และของนายสับ ตามลำดับ เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว และได้รับการปล่อยตัวโดยไม่แจ้งข้อหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กันตัวไว้เป็นพยาน
ส่วนผู้ต้องหา 2 คนสุดท้าย คิอนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ ซึ่งเป็นพยานที่ยืนยันว่าเห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่าผู้ที่ขับรถชนคนเสียชีวิตเป็นชาย และนายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามีครูจอมทรัพย์ พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งแรกให้มารับทราบข้อหาให้การเท็จ ซึ่งจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้. -สำนักข่าวไทย