สงขลา 26 พ.ย. – พาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ถกผู้เกี่ยวข้องหวังดันการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียพุ่ง พร้อมต่อยอดภูมิปัญญาพื้นบ้านจากใยตาลโตนด
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2560 ได้ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตลาดต้องชม ตลาดน้ำคลองแห พร้อมทั้งร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ณ ด่านศุลกากรสะเดา รวมทั้งลงพื้นที่อำเภอสทิงพระ เพื่อติดตามความก้าวหน้าด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดของกลุ่มหัตถกรรมโหนดทิ้ง
สำหรับการลงพื้นที่ด่านศุลกากรสะเดานั้น ด่านศุลกากรสะเดาถือได้ว่าเป็นประตูการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียที่สำคัญ มีมูลค่าการค้าแต่ละปีสูงเป็นอันดับ 1 กว่า 300,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับทราบจากนายด่านศุลกากรสะเดาว่าเนื่องจากที่ผ่านมาเกิดปัญหาความแออัดด้านการจราจรขนส่งสินค้าบริเวณด่านศุลกากรปัจจุบันและเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการค้าชายแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย รัฐบาลจึงดำเนินโครงการพัฒนาด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ การก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่นี้อยู่บนเนื้อที่ 596 ไร่ คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จกลางปี 2562 หากเสร็จคาดว่ามูลค่าการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 จากนั้นประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยที่ประชุมได้มีการหารือถือแนวทางการแก้ไขปัญหาความแออัดของด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์ ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะมีการทำความตกลงกันแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังมีความคลาดเคลื่อนในการเปิดให้บริการของทางประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคมนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้ง 2 ประเทศจะลงพื้นที่ เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือถึงการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน อาทิ การจัดตลาดสินค้าเกษตร หรือ ผลิตภัณฑ์ชุมชน บริเวณเมืองชายแดน เป็นต้น ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยว เช่น กระทรวงมหาดไทย และ MOC BIZ Club ในพื้นที่ เพื่อผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป
นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนและคณะยังเดินทางลงพื้นที่อำเภอสทิงพระ เพื่อพบปะกับกลุ่มหัตถกรรมโหนดทิ้ง ซึ่งได้มีการนำเส้นใยตาลมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ กระเป๋า หมวก และที่รองจาน สำหรับผลิตภัณฑ์โหนดทิ้งนั้นมีความโดดเด่นในเรื่องของคุณภาพและความแข็งแรงทนทานของใยตาลที่มีอายุการใช้งานถึง 10 ปี อีกทั้งใยตาลยังมีคุณสมบัติในการไม่เป็นเชื้อรา โดยที่ผ่านมากระทวงพาณิชย์ได้ให้การสนับสนุนในการเข้าร่วมโครงการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการแฟชั่น โดยการพัฒนาสินค้าต้นแบบให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าและตลาดเป้าหมาย และยังได้เชิญเข้าร่วมงานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง (BIFF&BIL) ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าอย่างมาก และมีคำสั่งซื้อทั้งจากภายในและภายนอกประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลุ่มค้าสำคัญในต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ จีน และอเมริกา เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย