กระทรวงคลัง 24 พ.ย.-พนักงาน กลุ่มชาวไร่ยาสูบ ตัวแทนจำหน่าย ยื่นหนังสือถึงคลัง จากผลกระทบขยับภาษียาสูบ ร้องศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว หลังยอดขายลดลงคาดประสบปัญหาขาดทุน 1,575 ล้านบาท ขณะที่โรงงานยาสูบแถลงผลกระทบ 27 พ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโรงงานยาสูบแถลงผลกระทบภายหลังปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ วันที่ 27 พฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าวันนี้นายคณุตม์ ฤทธิสอน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสากิจยาสูบ ยื่นหนังสือผ่านนายจิระ พันธ์คีรี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการคลัง ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง โดยได้นำกลุ่มพนักงานโรงงานยาสูบ เกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ ตัวแทนจำหน่าย หลังจากโรงงานยาสูบได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบ ส่งผลต่อยอดขายบุหรี่ลดลงในปีงบประมาณปี 60 ร้อยละ 41 เนื่องจากบุหรี่ต่างชาติแย่งตลาด เพราะซื้อได้ในราคาถูก จึงทำให้รายได้ของโรงงานยาสูบจากปี 60 มีกำไร 9,344 ล้านบาท มีรายได้นำส่งเข้าคลัง 13,267 ล้านบาท จากกำลังการผลิต 28,000 ล้านมวนต่อปี จะประสบปัญหาขาดทุน 1,575 ล้านบาท จากกำลังการผลิตลดลงเหลือ 17,000 ล้านมวนต่อปี ทำให้ได้รับกระทบมากขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า ทำให้รายได้ส่งเข้าคลังหดหายไปด้วย
พนักงานโรงงานยาสูบเตรียมรวบรวมรายชื่อ เพื่อยื่นต่อศาลปกครองกลางคุ้มครองชั่วคราวภายใน 90 วัน หรือภายในช่วงวันที่ 14 ธันวาคม ขอให้พิจารณาทบทวนประกาศกระทรวงคลัง เพราะหลายส่วนได้รับผลกระทบทั้งพนักงานยาสูบ 2,950 คน ลูกจ้างพันกว่าคน เกษตรปลูกใบยาสูบกว่า 20,000 ครัวเรือน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยาสูบนับ 5 แสนราย เนื่องจากเห็นว่าโครงสร้างภาษีดังกล่าวกระทบต่อโรงงานยาสูบ จากราคาบุหรี่ 60 บาท ต้องเสียภาษีถึง 47 บาท ค่าขนส่ง ค่าการตลาด จึงมีกำไรเพียงเล็กน้อย จึงต้องการให้กระทรวงคลังหาแนวทางการชดเชยดูแลโรงงานยาสูบ
จากนั้นพนักงานโรงงานยาสูบและเกษตรกรใบยาสูบเดินทางไปยื่นหนังสือผู้บริหารกรมสรรพสามิต ยอมรับว่าระหว่างการศึกษาปรับโครงสร้างภาษีได้หารือกับภาคเอกชนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาษียาสูบตลอดช่วง 2-3 ปี เพื่อให้มีการปรับตัว แต่ไม่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากขนาดนี้ จากการแข่งขันทางการตลาดของเอกชนต่างชาติ จึงพร้อมพิจารณาเกี่ยวกับกฎหมายการทุ่มตลาดและหาช่องทางช่วยเหลือด้านอื่นเพิ่ม ทำให้กลุ่มพนักงานพอใจเดินทางกลับและพร้อมจะเดินทางกลับมาขอคำตอบจากกระทรวงคลังอีกครั้งเร็ว ๆ นี้.-สำนักข่าวไทย