แพทย์ชี้ทำได้! นำอวัยวะออกจากร่างไปชันสูตรโดยไม่ต้องบอกญาติ

กรุงเทพฯ 22 พ.ย.-กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม จากกรณีที่ “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตกะทันหัน และถูกผ่าชันสูตรศพก่อนครอบครัวพบว่า อวัยวะภายในร่างการหายไป ร้อนถึงทุกฝ่ายต้องออกมาชี้แจง โดยแพทย์ระบุชัดทำได้โดยไม่ต้องบอกญาติ หลายคนอาจสงสัยว่าเพราะอะไร ติดตามจากรายงาน


กลายเป็นประเด็นร้อนแรง ไม่แพ้เรื่องราวสาเหตุการเสียชีวิตที่ผิดตามธรรมชาติของนายภคพงศ์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 หลังร่างถูกนำไปผ่าชันสูตรศพที่กองพยาธิ รพ.พระมงกุฎเกล้า และญาติก็พบว่าอวัยวะภายในของน้องเมย หายไปอย่างไร้ร่องรอย


หลังถกเถียงกันในสังคมจนไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ล่าสุด สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ญาติร้องขอให้ชันสูตรศพซ้ำรอบ 2 ต้องตั้งโต๊ะไขข้อสงสัยว่า เรื่องอวัยวะหายนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่สิ่งผิดปกติ เป็นธรรมดาเมื่อมีการเสียชีวิตชนิดผิดธรรมชาติ เรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น

ส่วนการเสียชีวิตตามธรรมชาติ คือ โดยโรค หรือเสียชีวิตภายในโรงพยาบาล หากจะนำชิ้นส่วนอวัยวะไปชันสูตรต้องขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร แต่กับกรณีเสียชีวิตผิดธรรมชาติ กฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 148-150 ระบุชัดให้แพทย์ รวมถึงตำรวจ มีอำนาจตัดสินใจนำอวัยวะออกไปตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต ทำได้โดยไม่ต้องบอกกล่าว แต่สิ่งที่ถูกต้อง ก็มาพร้อมคำถามเรื่องจรรยาบรรณ ว่าเหมาะสมหรือไม่ ในการนำชิ้นส่วนจากร่างไร้วิญญาณออกไปโดยไม่ต้องแจ้งให้ญาติทราบ


สอดคล้องกับความเห็นของอดีตหัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ที่ระบุว่า การนำอวัยวะออกจากร่างกาย สามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาต เนื่องจากเป็นวัตถุพยาน เหตุผลที่ต้องนำหัวใจและสมองออกไปพิสูจน์ เพราะเป็นการไขปริศนาการตายทุกกรณี

นิติวิทยาศาสตร์รับเรื่องจากพนักงานสอบสวน สภ.องครักษ์ ให้ชันสูตรศพน้องเมย ครั้งที่ 2 และตั้งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 3 คนตรวจผ่าศพ ซึ่งผลไม่พบสมอง หัวใจ จึงได้ประสานพนักงานสอบสวนติดตามหาอวัยวะ เพื่อตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ พนักงานสอบสวนจะนำอวัยวะมาจาก รพ.พระมงกุฎฯ ให้นิติวิทยาศาสตร์ชันสูตร คาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ จะทราบสาเหตุการเสียชีวิต

ทั้งนี้ การนำอวัยวะผู้เสียชีวิตไปตรวจพิสูจน์ แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่แพทย์นิติวิทยาศาสตร์ก็ยอมรับ ควรนำเรื่องนี้ใช้เป็นกรณีศึกษา หาแนวทางปฏิบัติ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างญาติและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว