ลำปาง 21 พ.ย.- สถาบันคชบาลฯ-คณะสัตวแพทย์ มช.และอีกหลายหน่วยงานประสบความสำเร็จช่วยชีวิตช้างด้วยวิธีพลาสมาเป็นครั้งแรกและเชือกแรกของประเทศ จากภาวะสิ่งอุดตันทางเดินอาหาร เตรียมใช้เป็นแนวทางรักษาช้างเชือกอื่น
เมื่อเวลา 10.00 น. (21 พ.ย.) ที่หอประชุมอาคารกัลยาณิวัฒนาการุณย์ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง นายภพปภพ ลรรพรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ พร้อมคณะสัตวแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แถลงผลสำเร็จในการช่วยชีวิต “พลายบุญภัคร” อายุ 25 ปี เป็นช้างงายาวจากปางช้างใน จ.เชียงใหม่ ถูกส่งมารักษาที่โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2560 เนื่องจากช้างมีอากาสำรอกตลอดเวลา ไม่สามารถกินน้ำและอาหารได้ โดยพบเศษอาหารลักษณะเป็นก้อนอุดตันในหลอดอาหาร ซึ่งเป็นความเสี่ยงให้ช้างล้มได้ คณะสัตวแพทย์และหลายหน่วยงานได้หารือกันและใช้วิธีการถ่ายพลาสมาให้กับพลายบุญภัครเป็นเชือกแรกของประเทศไทย พร้อมพัฒนาอุปกรณ์ช่วยแก้ไขภาวะอุดตันใหม่ขึ้นมา ทำให้การรักษาประสบความสำเร็จสามารถนำสิ่งที่อุดตันออกมาได้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
ผศ.น.สพ.ดร.วีรพงศ์ ตั้งจิตเจริญ จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ช้างเชือกนี้ถือว่าเป็นช้างเชือกแรกในประเทศไทยที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายพลาสมา ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเลือด เพื่อเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันของร่างกาย และระดับโปรตีนในกระแสเลือด โดยพลาสมานั้นได้รับบริจาคมาจากช้างที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงภายในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และผ่านการตรวจสอบการเข้ากันได้ของเลือดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงทำให้ช้างมีความแข็งแรงในการรักษามาตลอด หากไม่ใช้วิธีดังกล่าวในการรักษา ช้างเชือกนี้อาจล้มไปก่อน
ผศ.น.สพ.ดร.วีรพงศ์ อธิบายด้วยว่า แนวทางการรักษาช้างด้วยวิธีการพลาสมานี้ คณะสัตวแพทย์จะนำมาใช้รักษาช้างไทยอื่น ๆ ต่อไป ควบคู่กับการวิจัยพัฒนาให้มากขึ้น โดยเฉพาะการนำไปช่วยเหลือช้างน้อยที่ป่วยเป็นเชื้อโรคเฮอร์ปีส์ไวรัส EEHV ซึ่งเป็นโรคน่าห่วงและคร่าชีวิตช้างน้อยของไทยไปหลายตัว เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนใดช่วยรักษาช้างจากเชื้อโรคนี้ได้ ดังนั้น การรักษาช้าง และทำพลาสมา จึงเป็นความหวังของคณะสัตวแพทย์ในการรักษาช้าง.-สำนักข่าวไทย
